Tag: คุณค่า

แมลงทับ… ความสวยงามในสายตาคน และอาหารในสายตาของมด

August 22, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,237 views 0

แมลงทับ... ความสวยงามในสายตาคน และอาหารในสายตาของมด

แมลงทับ… ความสวยงามในสายตาคน และอาหารในสายตาของมด

ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านสวน ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นสิ่งแปลกตาที่ไม่น่าจะอยู่บนพื้นดิน เดินเข้าไปดูใกล้ๆก็เห็นซากแมลงทับตัวหนึ่งที่ห้อมล้อมไปด้วยฝูงมด

ผมไม่ได้เห็นแมลงทับมานานมาแล้วเพราะอยู่แต่ในเมืองกรุง สีสันของแมลงทับเป็นสีเขียวมันเงาสวยงามเหมือนสีของอัญมณี ผมชอบมันนะ ตอนเด็กก็ยังเคยซื้อแมลงทับมาเลี้ยงอีกด้วย …ผมกำลังคิดจะเก็บมันขึ้นมา แต่เมื่อเห็นฝูงมดรอบๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าซากแมลงทับตัวนี้คงมีประโยชน์กับพวกมันมากกว่าตัวผมแน่นอน

ฝูงมดพยายามรุมล้อมแมลงทับ คงจะขนย้ายหรือหาอะไรที่พอจะกินได้ มดมันคิดแค่เรื่องดำรงชีวิต ไม่เหมือนกับที่ผมคิด…เพราะเมื่อกี้นี้ ผมคิดจะหยิบมันขึ้นมาเพราะความสวยงามของมัน

…. ผมเดินออกมาจากซากแมลงทับและฝูงมด พร้อมกับคิดว่า…ทำไมเราถึงไปติดกับความสวยงามเหล่านั้นนะ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่สาระ หาประโยชน์อะไรก็ไม่ได้ กินก็ไม่ได้ สิ่งที่มดเห็นคือคุณค่าของชีวิตจริงๆ เป็นอาหารจริงๆ ไม่ใช่เอามาประดับตกแต่งอะไรอย่างคนเรา

ความคิดมันขยายต่อไปอีกว่า การที่คนเรามานั่งแต่งหน้า แต่งตัว ประดับประดา แต่งรถ แต่งบ้าน แต่งสวน…ฯลฯ นี่มันไม่มีสาระทั้งนั้นเลย มีแต่ความอยากสวยอยากงาม …ความอยากที่มดมันยังไม่มีเลย …ถ้าเกิดมาเป็นคนแล้วขยันให้ได้อย่างมด เอาแต่สาระที่จำเป็นให้ได้อย่างมด สามัคคีให้ได้อย่างมด ก็คงจะดีนะ

…ซากแมลงทับถึงคนจะไม่สนใจ แต่มดก็ยังสนใจ แต่ซากคนนี่สิ สวยแค่ไหนก็ไม่มีใครเอา เผาทุกราย ยกเว้นแต่ว่าเป็นคนดี มีคุณค่า น่ากราบไหว้จริงๆ ก็คงจะมีบ้างที่จะมีใครอยากเก็บซากคนดีเหล่านั้นไว้ เพื่อประโยชน์อะไรสักอย่าง

– – – – – – – – – – – – – – –
22.8.2557

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์

 

ความงามกับความรัก

August 9, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,779 views 0

ความงามกับความรัก

ความงามกับความรัก

ในสังคมปัจจุบัน ความงามกับความรักปนเข้าไปด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกันจนแทบจะแยกไม่เอาว่า เรารักเพราะความงามหรือรักเพราะอะไรกันแน่…

ในบทความนี้ได้แรงบันดาลใจจากเพลง… หน้าจริง : ALARM9(http://www.youtube.com/watch?v=eqPSUAWuaZc ) เรื่องราวในเพลงเป็นเด็กผู้หญิงอ้วนๆคนหนึ่งที่พยายามแต่งเติมเพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะชอบในสิ่งนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงผู้ชายที่เธอบอกชอบนั้น ไม่ได้ชอบเธอที่รูปร่างหรือการแต่งตัว แต่ผูกพันกันด้วยคุณค่ามากกว่าความงามแค่รูปกาย

คงปฏิเสธได้ยากว่าความงามนั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดคนหมู่มากให้เข้ามาหา ไม่ว่าจะหญิงสวยชายหล่อก็เรียกว่ารูปงามทั้งนั้น คนทั้งหลายก็เลยพากันแต่งเสริมเติมสวย เพิ่มความงามขึ้นไป ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายในสมัยนี้ก็ไปศัลยกรรมเพื่อความงามเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงเลยสำหรับผู้หญิง การเสริมความงามกลายจนถึงการศัลยกรรมก็เป็นเรื่องที่ปกติ ใครไม่ทำสิแปลก…

ก็คงจะดีถ้าความงามนั้นดึงเอาคนที่ดีเข้ามาใกล้ตัว แต่ในความจริงแล้ว ความงามนั้นก็ดึงเอาเฉพาะคนที่ต้องการสิ่งสวยงาม คนที่เสพรูปกาย หลงติดในรูป กลิ่น เสียง สัมผัส ซึ่งนั่นหมายความว่าคนที่เขาเข้ามา เขาจะเข้ามาเอาแต่ความงามเท่านั้น

ในความจริงแล้วความงามไม่ได้มีผลอะไรต่อความรักเลย จะมีผลก็เฉพาะต่อความหลง จะทำให้หลงรัก ให้ลำเอียงเพราะรักใคร่ ความยึดมั่นถือมั่น การเสพสมใจในรูปที่สวยงาม เรียกได้ว่ายิ่งงามเท่าไหร่ก็จะยิ่งดึงคนที่มากด้วยกิเลสเข้ามาใกล้ตัวมากเท่านั้น แล้วมีคนที่มีกิเลสมากๆอยู่ใกล้ตัวจะดีไหมล่ะ? ความรักที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหามันดีไหมล่ะ? แรกแบบหลงในรูปมันดีไหมล่ะ?

จริงๆความรักที่เรามีคืออะไรกันแน่ เรารักในอะไรกันแน่ ในความสวยหล่อของเขา ในความรวยของเขา ในบุคลิกของเขา หรือในคุณค่าของเขา ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เสื่อมลงไป สลายไปได้ตามกาลเวลา ความงามนั้นไม่มีทางยั่งยืนตลอดกาล ความรวยก็ไม่แน่นอน นิสัยก็ยังเปลี่ยนได้ แต่คุณค่าจะไม่มีวันเปลี่ยนไปมีแต่จะยิ่งพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ

หากเรามีความรักในคุณค่าแท้ของอีกฝ่าย เข้าใจว่าจริงๆคนหนึ่งคนตรงหน้าเรามีความหมายเพื่ออะไร เข้าใจคุณค่าที่มากกว่าการเสพสมกิเลสร่วมกันแล้ว ก็จะเข้าใจถึงประโยชน์แท้จริงๆของสิ่งที่เขามี จะเห็นคุณค่าจริงๆที่เขามี ไม่ใช่เห็นตามที่กิเลสของตัวเราเองที่อยากให้เขาเป็นอยากให้เขามีดั่งใจเรา หรือเห็นไปตามที่กิเลสของเขาปั้นแต่งภาพลวงหลอกให้เราเห็นว่าเขาเป็นเช่นนั้นเช่นนี้

เมื่อเข้าใจคุณค่าแท้ของความรัก จะสามารถเข้าใจและหลุดพ้นสภาพที่หลงรักจากรูป กลิ่น เสียง สัมผัส ความรวย ความมีชื่อเสียง ฐานะ หน้าที่การงาน บุคลิก นิสัย อุดมการณ์ ภาพลักษณ์ต่างๆ จะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความหมายเลย จะเหลือแต่คุณค่าแท้ของคนหนึ่งคนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา เป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา สอดร้อยไปในความสัมพันธ์จนเกิดเป็นคุณค่าร่วม แม้จะเรียกว่าความรักเหมือนกันกับคนทั่วไป แต่ก็เป็นความรักที่ไม่ได้ปนเปื้อนด้วยกิเลส ไม่ได้ปนเปื้อนด้วยเสน่หา ไม่ได้ปนเปื้อนด้วย อบายมุข กามอารมณ์ โลกธรรม อัตตา ใดๆเลย เป็นความรักที่หลุดพ้นจากรักเพราะความงามไปไกล เป็นความรักแท้ที่ประเมินค่าไม่ได้ หาซื้อไม่ได้ ต้องสร้างเอาเอง

เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ก็อย่ามัวหลงไปเติมความงามเพื่อหาความรักอยู่เลย รักแท้ไม่มีอยู่ในกองกิเลสหรอกนะ เอาเวลามาเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองจะดีกว่า ทำตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณค่าต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อโลกนี้ แล้วคุณจะถูกห้อมล้อมด้วยคนที่มาเกื้อกูลกันด้วยคุณค่า ถ้าวันนั้นมาถึงแล้ว ก็คงจะรู้ได้เองว่าคุณค่าของความรักแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

– – – – – – – – – – – – – – –
9.8.2557

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์

มีคู่จึงมีสุข?

July 29, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,260 views 0

มีคู่จึงมีสุข?

มีคู่จึงมีสุข?

เก็บตกจากรวมญาติวันก่อน….

หลังจากที่เราได้บอกความคิดบางอย่างออกไปแล้ว ก็มีความคิดเห็นจากมุมอื่นเข้ามามากมายให้ได้ขบคิดกัน จนมีเหตุบังเอิญให้ได้เอามาเป็นบทความในวันนี้

เรามักจะเข้าใจว่าชีวิตมันต้องมีคู่ครองมาช่วยกัน เกื้อกูลกันจึงจะเจริญงอกงาม เป็นความสมบูรณ์ของชีวิต แม้ในปัจจุบันก็กลายเป็นเหมือนตัววัดคุณค่าของใครสักคน ..นั่นก็เป็นความเข้าใจ แต่ในความเป็นจริงที่เห็น บางทีมันก็ไม่ค่อยเกื้อกูลกันนะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุขนะ แตกร้าวกันบ้าง อดทนกล้ำกลืนฝืนทนกันบ้าง

ที่เราคาดหวังว่าเขาจะมาดูแล ช่วยเหลือ เอาใจเราตลอด มันก็อาจจะ “ เปลี่ยนไป ” ได้ด้วยเหตุต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น งาน การเงิน ชื่อเสียง ความเสื่อมของวัย ความหล่อความสวย ความเจ็บไข้ ความเคยชิน ภาระเรื่องลูกและครอบครัว การไม่ได้ในสิ่งที่หวัง สังคมสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ตอนแรกๆ นี่มันก็ดีอยู่หรอก ยังไม่เคยเห็นใครที่ตกลงปลงใจครองคู่กัน ว่าคู่ตัวเองไม่ดีสักคน … แต่พออยู่ๆไปเดี๋ยวมันก็เห็นความไม่ดีเองนั่นแหละ ตอนรักกันนี่ปากเหม็นก็ยังอยากอยู่ใกล้ ตอนชังนี่ขนาดอยู่ไกลปลายสายตาก็ยังเหม็นก็อยู่กันไปทั้งรักทั้งชังนั่นแหละ

ส่วนหนึ่งคงเพราะเรามักจะไปยึดว่ามันต้องเหมือนวันแรกๆ เราไปคิดว่าเขาต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามอุดมคติของเรา เช่นต้องดูแล ต้องเอาใจ ต้องล้างจาน ต้องถูบ้าน ทำกับข้าวให้ด้วยนะ…แรกๆนี่ก็ยังหลงกันอยู่ เลยพอจะทำได้ พออยู่ๆกันไปเริ่มเห็นความจริง ฝ่ายหนึ่งก็เอาแต่ใจ อีกฝ่ายหนึ่งก็เอาแต่ใจ พอไม่ได้ในสิ่งที่หวังก็มีลีลาท่าทางต่างๆกันไปในการหาเรื่องให้ตนเป็นฝ่ายถูก ยิ่งกว่าละครอีก…

เรามักจะได้ข้อมูลมาไม่เหมือนกัน บางทีก็ได้ข้อมูลแต่ด้านร้ายๆ นั่นเพราะเราอาจจะสนิทกับเขา คลุกวงในกับเขา เวลาเขาทะเลาะกันก็มาบ่น มาระบาย มาปรึกษา ให้เราได้รับรู้บ้าง ทำให้เห็นความเป็นจริง แต่ก็มีคนที่ได้รับข้อมูลแต่ด้านดีเหมือนกัน คือได้ยินแต่เรื่องดีๆของการมีครอบครัว อาจจะเพราะว่าเราไม่สนิทกับเขามากพอที่เขาจะพูดเรื่องแย่ๆให้เราฟัง

เวลาเราอยากอวดของกัน เราก็อวดกันแต่ของดีนั่นแหละ ก็ใครล่ะจะมาเล่าเรื่องไม่ดีของตัวเองและคู่ให้ชาวบ้านฟัง ขนาดทุกวันนี้เรายังพยายามแต่งตัวให้ดูดีเลยใช่ไหม ไม่เห็นมีใครแข่งกันดูไม่ดีสักคน ก็นั่นแหละเรื่องแย่ๆเขาก็เก็บไว้พูดแต่กับคนที่เขาไว้ใจเท่านั้น หรืออีกกรณีที่มีแต่เรื่องดีๆ เพราะแค่ยังไม่เจอเรื่องร้ายๆ เท่านั้นเอง ไม่ใช่มันไม่มี แต่มันยังไม่เจอ ละครชีวิตมันต้องดูกันยาวๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน

ถ้าใครมีไปแล้วก็ดูแลกันไป ถือว่าได้เพื่อนร่วมชีวิต ร่วมชะตากรรม ส่วนคนที่ยังคบๆกันอยู่ ก็ให้ดูกันไปคบกันไปเรื่อยๆ ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนให้รอบด้าน …ถ้าเป็นของจริงนะ…ไม่ต้องรีบก็ได้…นานแค่ไหนเขาก็รอ…มีแต่เราจะรีบจนพลาดไปเองนั่นแหละ

จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนของผม คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรลงทุน ขาดทุนมากกว่ากำไรแน่นอน …การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

สุดท้ายนี้ ขอให้เพื่อนๆที่ยังมีอิสระเสรีภาพปราศจากครัวครอบ เกาะคานทองของท่านไว้ให้ดีๆ อย่าได้พลั้งเผลอร่วงลงมากันเลย ( หาเพื่อน~ )

ปล. เห็นนกมันงับกัน บินชนกัน ใกล้ชิดกัน ก็ไม่รู้ว่ามันรักกันหรือมันตีกัน ถ้าเรากำลังรู้สึกดีๆ เราคงว่ามันรักกัน

… แต่ถ้าเรากำลังเศร้าๆ เราคงว่ามันตีกัน

– – – – – – – – – – – – – – –
29.7.2557
ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์