Tag: การครอบครอง
รักแท้คือการเสียสละ
รักแท้คือการเสียสละ
การเสียสละคือนิยามหนึ่งของคำว่า “รักแท้” ที่หลายคนมักจะหยิบยกมาใช้ แต่จะเสียสละอย่างไร เสียสละแบบไหนจึงจะเรียกได้ว่าเสียสละเพื่อรักแท้ ลองพิจารณาบทความนี้กันดู
หากเราเสียสละเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งการครอบครอง สิ่งนั้นไม่เรียกว่าเสียสละ แต่เรียกว่าการลงทุนโดยหวังผลกำไร มีคนมากมายที่เสียสละเพื่อที่จะสร้างภาพให้อีกฝ่ายหลงเข้าใจว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ซึ่งความเสียสละเช่นนั้นก็มักจะหมดไปเมื่อไม่ต้องการครอบครองสิ่งนั้นอีก อาจจะเกิดจากความเบื่อ ความเคยชิน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ไม่มีสิ่งผลักดันให้เสียสละ
หากเรามองเพียงแค่ว่าการเสียสละนั้นเป็นสิ่งดี เราก็อาจจะถูกกิเลสหลอกก็ได้ จึงควรศึกษาและค้นให้ลึกว่าที่เราและเขาเสียสละนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะอยากได้อยากเสพอะไรจึงพยายามเสียสละเช่นนั้น
ความเสียสละแท้จริง คือการเสียสละความสุข เพื่อความไม่ทุกข์ใดๆทั้งปวง
เสียสละการครอบครอง ยินดีที่จะเมตตาโดยไม่ต้องไปมีสิทธิ์ใดในร่างกายและจิตใจของผู้อื่น
เสียสละการผูกมัด เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระไม่ต้องผูกพันกันด้วบภพชาติอีกต่อไป
ผู้ที่เสียสละตัวตนได้อย่างแท้จริง คือผู้ที่มีรักแท้ ยอมไม่หลงเสพหลงสุข เพราะรู้ดีว่าท้ายที่สุดแล้วนั้นคือทุกข์อย่างมหันต์ ยอมไม่ครอบครองเพราะรู้ดีว่าจะกลายเป็นทุกข์ของกันและกัน ยอมไม่ผูกมัดใดๆ เพราะรู้ว่าอิสระคือสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งกว่า
เพราะรู้ดีว่าแม้จะเป็นความรักที่ดี มีว่าที่คู่ครองที่ดีแสนดีเพียงใด แต่การผูกมัดกันด้วยคำหวานและคำสัญญาเหล่านั้น คือสิ่งที่จะทำร้ายกันไปชั่วกาลนาน
ในเมื่อรักแท้คือการเสียสละ เราจะต้องอยากได้อะไรอีก เราเป็นเพียงผู้ให้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องได้รับอะไร สละให้ ยกให้ ทำให้ โดยไม่ต้องหวังอะไรตอบแทน ไม่หวังคำขอบคุณ ไม่หวังความเห็นใจ ไม่หวังแม้ความรักตอบ ไม่หวังสิ่งใดคืนกลับมาเลย นับประสาอะไรกับการครอบครอง ซึ่งก็คงจะเป็นสิ่งที่ห่างไกลสำหรับผู้ที่เสียสละอย่างแท้จริง
– – – – – – – – – – – – – – –
27.7.2558
ความรัก…ไม่จำเป็นต้อง…
ความรัก…
ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน
ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน
ไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัว
ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขใดๆ
…เพียงเพื่อจะได้ครอบครอง
= = = = = = = = = = =
คนที่รักกันจริงนั้น ย่อมไม่คิดจะผูกพัน
ด้วยเงื่อนไขที่ผูกมัดเช่น แฟน หรือครอบครัว
แม้จะเป็นคนที่รักแสนรักปานใด
ก็จะไม่ยอมทำบาปและสร้างอกุศล
เพียงเพื่อได้เสพสุขที่ลวงโลกเหล่านั้น
…แต่จะคงไว้ซึ่งความเป็นมิตรที่ดี
เป็นผู้แบ่งปัน เกื้อกูล ดูแล ตักเตือน ฯลฯ
เพื่อนำพาคนที่รักนั้นไปสู่ความเจริญฝ่ายเดียว
…ผู้ที่เข้าไปผูกพันนั้น คงจะหนีไม่พ้นเหตุแห่งกิเลส
ด้วยความหลงในโลกียรส หลงในการสมสู่
หลงในการครอบครอง อยากได้เป็นเจ้าของ
หากเว้นขาดจากเรื่องเหล่านี้แล้ว
การคบหากันเป็นแฟน หรือแต่งงาน
ก็เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอีกเลยในชีวิต
ซึ่งจะคงเหลือไว้แต่ความเป็นมิตรที่ดีเท่านั้น
= = = = = = = = = = =
บทขยาย: ในบทนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ความรักที่แท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องครอบครองด้วยสถานะใดๆที่เกินเพื่อนเลย หากเราไม่ต้องการครอบครองเขา ไม่สมสู่เขา ไม่หลงเสพสุขในกามคุณ โลกธรรม อัตตาทั้งหลายที่เขามี เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปมีความสัมพันธ์ให้เกินเพื่อน
คนที่พยายามให้ความสัมพันธ์นั้นเกินเพื่อนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็เป็นเพียงข้ออ้างของกิเลสที่ปั้นแต่งมาเพื่อให้ตนได้เสพสมใจเท่านั้น
คนที่หลงไปแต่งงานแล้ว ความเจริญสูงสุดที่จะมีได้ก็คือการเว้นขาดจากการสมสู่ สุดท้ายก็จะกลายเป็นการคบหาแบบเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งการมีความสัมพันธ์ที่ดีนี้ ไม่จำเป็นต้องสร้างวิบากบาป สะสมกิเลสรายทาง ให้ต้องมารับกรรมชั่วกันทีหลัง เพียงแค่คงสถานะมิตรที่มีไว้ตั้งแต่แรกให้ยั่งยืน สุดท้ายก็จะมาบรรจบที่เดียวกันกับคู่รักที่เจริญแล้วทุกคู่
แต่คนที่คงความเป็นโสดและเป็นมิตรที่ดีจะเจริญได้มากกว่ามากนัก เพราะไม่ต้องมารับวิบากบาปจากความชั่วที่ทำมาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการบำเรอกิเลสของกันและกัน การสมสู่กันและกัน การระบายโทสะแก่กันและกัน จนกระทั่งการพากันไปหลงในกิเลสต่างๆด้วยกัน พวกเขาก็ไม่ต้องรับวิบากบาปเหล่านั้นทีหลัง
นั่นหมายถึงเราสามารถพาคนที่เรารักเจริญได้มากกว่าการที่ไปคบหากันเป็นแฟนหรือแต่งงานกัน เพราะไม่ต้องมีวิบากบาปใดมากั้นขวางไม่ให้ไปสู่ความเจริญ นี้เองคือความรักที่มากกว่า เกื้อกูลมากกว่า มีปัญญามากกว่า เห็นแก่ตัวน้อยกว่า เสื่อมน้อยกว่า และทุกข์น้อยกว่าคนที่หลงไปคบหากันเป็นแฟนหรือแต่งงานกันมากนัก
– – – – – – – – – – – – – – –
2.5.2558