ทักทาย
ถาม-ตอบ
มีคำถามข้อสงสัยที่บทความในเว็บไซต์แห่งนี้ไม่ได้ตอบคำถามเหล่านั้นไว้ หรือไม่ตรงตามที่ใจคิดนัก ก็สามารถที่จะส่งคำถามมาได้ในท้ายหน้านี้ ซึ่งท่านไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตนแต่อย่างใด เพียงแค่พิมพ์นามสมมุติและถามคำถามที่สงสัยไว้ ผมก็จะมาทยอยตอบให้ครับ
แต่ถ้าหากอ่านบทความใดแล้วมีคำถามที่สงสัย ก็สามารถที่ส่งข้อความไว้ในตอนท้ายของบทความนั้นได้เลยเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นที่ผ่านมาอ่านได้อีกทีหนึ่งครับ
The journey begins
วันนี้เป็นวันดี เป็นวันแรกที่ได้ทำสิ่งที่ได้คิดไว้ เป็นการเดินทางที่จะทำให้ชีวิตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในการเดินทางครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆที่จุดมุ่งหมาย แม้ว่าจะเป็นการเรียนรู้เหมือนทุกๆครั้ง แต่แตกต่างกันที่ปลายทาง
ที่ผ่านมาในชีวิตได้แต่เดินทาง เพื่อจะไปปลดปล่อย เก็บ สะสม อะไรบางอย่าง แล้วก็กลับมาที่บ้าน เหมือนคนทั่วๆไป ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ดูเหมือนจะเหมือนเดิม เดินทางและกลับมา แต่เป้าหมายนั้นเป็นการเดินทางเพื่อไม่กลับมา อาจจะงงๆกันนิดหน่อย แต่เชื่อว่าใครที่แสวงหาการเปลี่ยนแปลงย่อมเข้าใจอารมณ์นี้อย่างแน่นอน
ก้าวนี้เป็นก้าวแรกของชีวิต อย่างจริงจังเลยก็ว่าได้ หลังจากได้ทดลองเรียนรู้มาจากหลายๆที่แล้ว การเดินทางไปเรียนรู้ในครั้งนี้จะนำประสบการณ์และความรู้เพื่อไปใช้จริงในอนาคต ไม่ใช่การเรียนรู้แบบกว้างๆเพื่อหาแนวทางอีกต่อไป เป็นการเริ่มต้นความชัดเจนอีกขั้นของชีวิต แน่นอนอาจจะเป็นก้าวที่สั้นๆ เพราะว่ายังไม่ได้ออกไปจริงๆ แต่เป็นก้าวที่สำคัญมากๆสำหรับชีวิตผม การเดินทางครั้งนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน แล้วจะมาเล่าให้อ่านกันภายหลังครับ
สวัสดี
minimal life ในมุมมองของผม
minimal life อาจจะเป็นคำที่หลายๆคน เคยรู้จักกันมาบ้างแล้ว ผมเริ่มต้นคำนี้มาจาก minimal art ซึ่งเป็นผลงานศิลปะซึ่งสร้างสรรค์ความเรียบง่ายให้ดูน่าสนใจ
สำหรับความหมายนั้น
minimal = ขั้นต่ำ,ต่ำสุด,เล็กมาก
life = ชีวิต
ดังนั้น minimal life ในมุมมองของผม หมายถึงการใช้ชีวิตที่กินน้อยใช้น้อย หรือความต้องการขั้นต่ำสุดเท่าที่จะทำให้สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
คำว่า minimal , minimum นั้นจะตรงกันข้ามกับ MAXIMUM หรือมากที่สุดนั่นเอง สำหรับสังคมในปัจจุบันนั้นกำลังไปในทิศทางของ MAXIMUM ซึ่งเป็นไปด้วยกระแสสังคม การโฆษณา การตลาด อะไรก็ว่าไป เรากำลังถูกสร้างให้ต้องการสิ่งของหรืออะไรมากมาย ทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจจะใช้ทั้งชีวิตหรือใช้ทั้งชีวิตก็ยังไม่พอที่จะคว้าเอามาก็ได้ บ้าน รถ ชีวิตที่หรูหรา ลาภ ยศ ซึ่งมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ
คำว่า “พอ” นี่มันยาก ใครจะบอก หรือพูดว่าพอก็สามารถกล่าวอ้างได้ แต่ใครจะทำให้พอจริงๆได้ หรือ “พอใจ” อย่างแท้จริงได้ อาจจะมีข้ออ้างมากมายว่าฉันได้สิ่งนี้สิ่งนั้นแล้วจะพอ แต่ก็มักจะมีอะไรมาทำให้อยากได้มากขึ้นไปอีก ไม่สุดหรือถึงค่า MAXIMUM จริงๆเสียที มันขยับเพดานความต้องการเพิ่มไปได้เรื่อยๆ ตามที่คนเรายังไม่พอ
จนผมต้องกลับมาทบทวนคำว่า “พอ” นอกจากพอแล้วยังต้องลดอีก ลดทุกอย่างให้เข้าสู่ความจำเป็น เท่าที่ชีวิตจะเป็นปกติสุขได้ นั่นคือ minimum คำว่า minimal ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีก ขึ้นกับพื้นฐานของแต่ละคน แต่ที่แน่นอนว่าแตกต่างกับ MAXIMUM ก็คือ มันมีจุดจบ เพราะยังไงค่าสุดท้ายของมันก็คือ 0 ก็คือไม่มีอะไรเลยนั่นเอง ( ไม่มีติดลบหรอกนะ )
การใช้ชีวิตแบบ minimal life เป็นแนวคิดที่เบียดเบียนธรรมชาติน้อย เบียดเบียน (ใจ) ตัวเองน้อย ไม่ต้องลำบาก มีแค่พอดี สามารถแบ่งปันกลับไปธรรมชาติและสังคมได้ เพราะส่วนใหญ่เมื่อเรากินน้อยใช้น้อย ก็มักจะมีของเหลือใช้เป็นธรรมดา ไม่ต้องอยากได้อะไร ไม่อยากได้ของใคร ไม่อยากเป็นอะไร เป็นอิสระจากความต้องการทั้งปวง
Welcome to minimal life
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ minimal life บทความนี้เป็นบทความแรกของบล็อกแห่งนี้ เริ่มต้นบล็อกด้วยบทความที่ง่ายๆ สั้นๆ บางๆ ด้วยคำทักทายกันก่อน
ก่อนจะถึงเนื้อหาเรื่องราวมากมาย ก็มาแนะนำบล็อกกันก่อน บล็อกแห่งนี้ถูกแยกเนื้อหาออกมาจากจาก DUCK BLOG (Dinh Blog เก่า ) เรื่องราวที่แยกออกมานั้นก็จะเป็นการใช้ชีวิต แนวคิด อะไรที่มันดูจริงจังก็จะแยกมาเล่ากันตรงนี้ สำหรับบทความเก่าๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเอามาแนะนำกันในบล็อกแห่งนี้ด้วยเหมือนกัน