ความรัก

กรณีศึกษา : ความเชื่อมั่นในความรักกับความไม่เคยพอของกิเลส

April 25, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,346 views 0

ยิ่งกว่าละคร… ( http://pantip.com/topic/33550684 )

วิบากกรรมชั่ว นี่ตอนแรกจะมาดีๆนะ มาแบบหลอกให้เราหลงว่าคนนี้แหละ ใช่เลย!! เนื้อคู่แน่ๆ

อาจจะใช้เวลาเป็นปี สิบปี ยี่สิบปีก็ได้ อาการคือ คอยตามสนองกิเลส ตามจีบ ตามง้อให้เรายอม

พอยอมเท่านั้นแหละ ลงนรกไปเลย… หลังจากนี้เราก็จะได้ลิ้มรสวิบากบาปที่ตัวเองเคยทำไว้อย่างสาสมเท่ากับที่เราทำมา

ก็จะโทษใครได้เล่า ทั้งหมดนั้นก็คือผลกรรมที่เราทำมาเองนั่นแหละ มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะดูออก เพราะมันจะทำให้เราหลงไปยินดีกับเรื่องที่พาให้ชั่วได้ง่ายๆเลย

คนรักในฝัน มีอยู่จริงหรือ?

April 25, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,384 views 0

คนรักในฝัน มีอยู่จริงหรือ?

คนรักในฝัน มีอยู่จริงหรือ?

ความรักในมุมของคู่ครองกับความฝันนั้นก็เป็นเหมือนกับเรื่องเดียวกัน หลายคนเฝ้าฝันว่าวันใดวันหนึ่งจะเจอกับคนในฝัน จินตนาการปั้นปรุงแต่งกันไปตามความอยากของแต่ละคน

ในทางโลกนั้นเขาก็ว่า ต้องเหมาะสมกันบ้าง ต้องพอดีกันบ้าง ต้องส่งเสริมกันบ้าง ต้องสร้างกุศลร่วมกันบ้าง ต้องพากันเจริญบ้าง หลายๆเหตุผลที่จะทำให้เราเฝ้าฝันถึงคู่ครองในอุดมคติ

แต่ในทางธรรมนั้นกลับบอกว่าการไม่มีคู่ครองนี่แหละดีที่สุด คนที่ปัญญายังไม่รอบ ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็ยังจะพยายามแสวงหาคู่ครอง ที่ว่าดี ที่ว่าเลิศ ตามหาในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ตั้งสเปค ตั้งภพว่าอย่างน้อยๆต้องแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ถึงจะยอมเป็นคู่ มีกำแพง มีกฎเกณฑ์ มีรูปแบบ หรือเรียกรวมๆว่ายังมีความยึดมั่นถือมั่นอยู่

ถ้าจะให้ตรงๆเน้นๆ เลยก็คือ “การที่ยังคิดว่าคนในฝันยังมีอยู่จริง ก็คือยังโง่อยู่นั่นเอง” เพราะแท้จริงแล้วการที่เราไปแสวงหาคู่ครองในฝันนั้นก็เหมือนไปคว้าสิ่งที่ไม่มีตัวตนให้มาเป็นตัวตนของเราแม้แรกเจอจะดูดี หน้าตาดี ฐานะดี การงานดี บุคลิกดี นิสัยดี ธรรมะก็มี แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่ล่อให้เราเข้าไปติดกับดักของความหลง และคนที่ถูกใจเรานั่นแหละคือ “ตัวเวรตัวกรรม

กิเลสของเราจะล่อเราให้ไปติดกับดักที่ตัวเองคาดฝันไว้ มีเหตุผลมากมายที่จะยอมสละโสดหรือพลีกายให้กับคนในฝัน สุดท้ายไม่ว่าจะได้คู่ที่แย่สุดแย่หรือดีปานเทวดามาเกิด มันก็อยู่ใต้อำนาจของกิเลสอยู่ดี มันก็วนอยู่ในความหลงอยู่ดี ไม่มีหรอกที่ว่าคนมีปัญญาเต็ม สติเต็ม จะยังหลงอยู่ได้ มีแต่คนด้อยสติปัญญาเท่านั้นที่จะละเมอเพ้อพกไปกับสิ่งที่ไม่จริง

หลายคนมีข้ออ้างมากมายที่ดูเหมือน “ฉลาดฉิบหาย” เพียงเพื่อที่จะได้มีคู่ ข้ออ้างเหล่านั้นเองคือความร้ายกาจของกิเลสที่พาให้คนหลงว่าตนเองมีปัญญา ซึ่งแม้แต่นักปฏิบัติธรรมหรือนักบวชก็ต้องพลาดพลั้งเพราะพลังของกิเลสมานักต่อนักแล้ว

สุดท้ายพวกเขาก็ยอมโง่อย่างยินดีเพื่อแสวงหามาเสพให้สมกิเลส หลอกตัวเองและหลอกคนอื่นว่าคนในฝันยังมี รักที่ดีก็ยังมี หลงมัวเมาอยู่ในความลวง วนเวียนทุกข์ซ้ำทุกข์ซ้อนไปเรื่อยๆจนกว่าจะเรียนรู้ได้เองว่า “ความเป็นโสดนี่แหละดีที่สุด

– – – – – – – – – – – – – – –

25.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

เมื่อรักนั้นคือความหลง ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

April 16, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 5,731 views 0

เมื่อรักนั้นคือความหลง ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

เมื่อรักนั้นคือความหลง

ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

มีให้เสพก็มีความสุข

พอไม่ได้เสพก็ทุกข์ทรมาน

 

= = = = = = = = = = =

โดยทั่วไปแล้ว…

คงยากที่ใครจะยอมรับว่า..ตนเองนั้นหลง

แต่ความจริงก็จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริง

คู่รักที่ยังดูแลเอาใจใส่แก่กันและกัน

ก็จะดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังมีความสุขดี

แต่พอคนใดคนหนึ่งลดการเอาใจใส่ ด้วยเหตุใดก็ตาม

อีกคนก็จะเกิดอาการทุกข์ในจิตใจขึ้นมาทันที

 

….

 

นี่คือความเสพติดความรักเพราะความหลง

พอได้เสพมันก็หลงว่าเป็นสุข

แล้วยึดสุขนั้นไว้ว่าต้องได้เสพตลอด

ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากความสุข

ใครที่นำความสุขนั้นออกไปจากชีวิตฉัน

ก็จะถือว่าเป็นศัตรูกับฉัน…

 

…โดยไม่สำคัญว่าคนนั้นจะเป็นใคร

เคยเป็นคนที่ฉันรักที่สุดหรือไม่

เคยเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่ฉัน

เคยเป็นคนที่ช่วยเหลือฉันเมื่อทุกข์ใจ

แต่ถ้าวันนี้เธอพรากความสุขของฉันไป

เราจะกลายเป็นศัตรูกัน!!

….และนี่เองคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คู่รักทะเลาะกัน

 

แท้จริงแล้วความหลงก็คือความเห็นแก่ตัวดีๆนี่เอง

มันมาในภาพที่สวยหรูที่เรียกว่าความรัก

สุดท้ายแล้วก็หวังจะให้คนอื่นมาบำเรอตนเท่านั้นเอง

 

– – – – – – – – – – – – – – –

16.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

April 16, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,584 views 0

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

ก็คือ “ความอยาก” มีความรัก

= = = = = = = = = = =

ความอยากมีความรักนั้นเหมือนคำสาป

ทำให้คนตาดีกลายเป็นคนตาบอด

ใครที่เผลอตัวเข้าไป ก็มักจะหลงทาง

ทั้งที่ทางออกนั้นก็คือทางเข้า แต่กลับมองไม่เห็น

พากันแก้ปัญหาความรักด้วยการแสวงหามาเติมให้เต็ม

ยิ่งแก้ก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งแก้ก็ยิ่งหลง ยิ่งแก้ก็ยิ่งไกล

หาคนนั้น หาคนโน้น ชอบแบบนั้น ชอบแบบนี้

ปรึกษาคนนั้น ปรึกษาคนนี้ ตามหาศิราณีไปทั่ว

พบรัก สมหวัง คบหา เลิกรา เป็นอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น

โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว…

วิธีแก้ปัญหาความรักมันก็ไม่ได้หายากอะไรมากมาย

มันก็แก้กันที่ “ความอยากได้อยากมี” เท่านั้นเอง

การแก้ปัญหาความอยากได้รับความรัก

ไม่ได้ง่ายเพียงแค่กดข่มใจให้ “ไม่อยาก

แต่เป็นการค้นให้ลึกลงไปถึงรากของปัญหา

คือเรา “อยาก” ได้รับอะไรจากความรัก

เราอยากได้ อยากมี อยากเสพอะไร

เราต้องการสิ่งใดหนอ ที่ทำให้เราต้องลำบาก

ที่ทำให้เราต้องทนทุกข์กับการแสวงหาความรัก

– – – – – – – – – – – – – – –

16.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)