Tag: เรื่องคู่

มีคู่ดี สุขกว่าเป็นโสด จริงไหม?

May 15, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 933 views 0

เห็นความเห็นนี้ในพวกเว็บบอร์ด ก็นำมาวิจารณ์กันหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่ตั้งใจที่จะออกจากนรกคนคู่

คนที่เขาหลงเขาก็ว่ามีคู่เป็นสุขกันหมดนั่นแหละ ยิ่งคู่ดียิ่งเป็นสุขกว่าโสด นั่นเขาฟันธงอย่างนั้น เชื่ออย่างนั้นหมดใจเลย

ก็เหมือนกับเด็กที่อยากได้ของเล่น อยากได้ของเล่นแพง ๆ พอได้มาเขาก็จะเป็นสุขใช่ไหม? ลองนึก ๆ ดูตัวเราในอดีตก็น่าจะตอบว่าใช่ ได้ของเล่นมันก็เป็นสุข

แต่ถ้าลองคิดดูว่าผู้ใหญ่ได้ของเล่นแบบนั้นมันจะสุขไหม ได้ของเล่นดีมากเลยนะ ดีมากแพงมาก หายากมาก มันจะสุขไหม ตุ๊กตาแพง ๆ ได้มา มันจะสุขไหม … เอามาทำไม ไม่มีประโยชน์ ไม่เป็นสุขหรอก ส่วนใหญ่ก็น่าจะเข้าใจได้แบบนี้ ยกเว้นพวกติดของเล่นไม่เลิก

เรื่องคู่ก็เหมือนกัน คนที่เขาโตแล้ว มีปัญญาแล้ว เขาก็ไม่ไปเป็นสุขกับของที่มันไม่สามารถสร้างสุขได้จริงหรอก เวลาคนหลงอะไรมันก็เป็นสุขกับสิ่งนั้น เหมือนเด็กเล่นของเล่น เขาหลง เขาชอบ เขาก็สุข คู่ก็เหมือนกัน คนหลง คนชอบ แม้ได้คู่ไม่ดีมาเขาก็เป็นสุข ไม่ต้องไปพูดถึงคู่ดีเลย ทุกวันนี้คู่ร้าย ๆ เขาก็ยังยินดีคบหากัน ใช่ว่าร้ายแล้วเขาจะเลิกกันซะที่ไหน

ถ้ามีใครมาถามมีคู่ดี สุขกว่าเป็นโสด จริงไหม? มันก็ตอบได้ทั้งสองมุมนั่น มุมโลกีย์ หรือมุมที่ยังหลงสุข ยังโง่อยู่ เขาก็เป็นสุขของเขาแบบนั้น

แต่ถ้าตอบมุมโลกุตระ ก็ตอบได้ง่าย ๆ คือ ไม่จริง เพราะบัณฑิต(ผู้ปฏิบัติสู่การพ้นทุกข์) เขาประพฤติตนเป็นโสดกัน ไม่แส่หา ไม่ป้อล้อ ไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับคนอื่นโดยเฉพาะเรื่องชู้สาว ไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนให้มันปวดหัวหรอก เพราะมันเป็นทุกข์ยังไงล่ะ ส่วนสุขน่ะหรอ ไม่มีจริงอยู่แล้ว ไอ้ที่เขาสุข ๆ นั่นกิเลสเขายึดเขาปั้นเขาเสพของเขาเอง แล้วเขาก็หลงของเขานั่นแหละ

ผมเห็นเขาไปถามในเว็บบอร์ด ว่าโสดหรือมีคู่สุขกว่ากัน ดูแล้วก็เห็นใจ เพราะส่วนใหญ่ก็เรียกว่า ชุ่มไปด้วยกามกันทั้งนั้น สุดท้ายถ้าไม่มีของเก่าจริง ๆ ก็จะโดนโน้มน้าวไปทางโลกีย์วิสัย คือไปหาสิ่งที่โลกเข้าใจว่าดีมาเสพ

ใครจะลองศึกษาเทียบดูก็ได้ ให้มาเปรียบเทียบกันเลย เอาสิ่งที่ว่าสุขมาจดไว้ทุกวัน เล่าความสุขของการมีคู่ดีให้ได้ทุกวันนะ เอาแค่ความสุขนะ ยังไม่ต้องเขียนทุกข์ เดี๋ยวกระดาษจะไม่พอ

เอาให้ได้ทุกวันนะ เพราะผมเป็นโสดนี่เป็นสุขทุกวัน เพราะไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องหวัง ไม่ต้องระวัง กังวล ระแวง หวั่นไหวเพราะมีคู่ยังไงล่ะ สรุปมันสุขเพราะไม่ต้องมีคู่นี่แหละ

จะได้ศึกษากันไปชัด ๆ ว่าตกลงว่ามีคู่ดีมันสุขกว่าที่เข้าใจจริงไหม

6 ปีก่อนนั้น

December 14, 2019 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 808 views 0

มีเพื่อนเก่าทักมา cap หน้าจอที่คุยกันเมื่อ 6 ปีก่อน สมัยนั้นผมยังใฝ่หาเมียอยู่เลย…

นึกย้อนไปมันก็ไม่น่าเชื่อสำหรับชีวิตที่พลิกมาขนาดนี้ ความกังวลหลาย ๆ อย่างในชีวิตหายไป โดยเฉพาะเรื่องคู่นี่แหละ

วิธีปฏิบัติแบบพุทธนี่มันวิเศษจริง ๆ ไม่มีความรู้ใดในโลกหรอกที่จะทำให้ความอยากมันจางคลายจนหายไปได้จริงแบบนี้

ชีวิตเก่ามันเหมือนฝันนะ ฝันโง่ ๆ เหมือนเราหลงกำขี้ขึ้นมาดมแล้วหลงว่ามันหอมชื่นใจนั่นแหละ

การเป็นคนโสดแบบพุทธนี่มันไม่ได้ง่ายแค่คิดว่าจะเป็นโสด หรือแค่อยู่เป็นโสดได้หรอกนะ มันต้องรบกับกิเลสเรื่องคู่ให้ชนะเสียก่อนมันถึงจะโสดยั่งยืนยาวนานถาวรและเที่ยงแท้ได้

จากสมัยก่อนต้องหาเมีย พอปฏิบัติธรรมเข้มขึ้น ไม่ต้องหาหรอก เขาจะเข้ามาเอง เข้ามาเพื่อปราบเรานั่นแหละ จะมีทั้งดี ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง อย่างที่ไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะได้เจอกับคนแบบนี้

เรียกว่าใส่พานมาให้เลย แค่เราหยิบมากินเท่านั้นแหละ … แต่ดีนะ ยังรู้ทันว่านั่นมันขี้ ก็เลยไม่เอาไง เกือบไปแล้วเหมือนกัน พอรู้แล้ว ใครเขาจะหลงเอาขี้ใส่ปากเล่า มันก็มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละ

นั่นแหละ 6 ปีก่อนก็โง่แบบนั้นแหละ สมัยยังปฏิบัติธรรมมิจฉา ตามครูบาอาจารย์ที่สอนมั่ว ๆ พูดธรรมแบบโก้ ๆ ดูดี ๆ แต่มันก็ไม่มีมรรคผลไง กิเลสมันก็โตไปเรื่อย ๆ

มาตอนนี้เป็นไง เจออาจารย์หมอเขียว เจอพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ก็เสร็จเลย ชีวิตก็สบายขึ้น ไม่ต้องโง่งมงาย หาเรื่องวุ่น เรื่องเมา เรื่องเน่าเหม็นใส่ตนเอง อย่างน้อย ๆ ก็ได้เรื่องอยู่เป็นโสดนี่แหละนะ นับแค่เรื่องนี้ก็คุ้มแล้ว

บอกเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่ตั้งใจปฏิบัติตนเพื่อความเป็นโสดอย่างยั่งยืน ผมใช้เวลาทั้งหมด 2 ปี ในการชำระกิเลสเรื่องอยากมีคู่ ดังนั้นอย่าประมาท อย่าไปคิดว่ามันง่าย เพราะมันยาก มันไม่ใช่ฐานศีล 5 แค่ศีล 5 ทั่วไปเอากิเลสเรื่องนี้ไม่อยู่ครับ

กิเลสสอนรัก ธรรมะสอนรู้

February 7, 2016 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 10,562 views 2

กิเลสสอนรัก ธรรมะสอนรู้

กิเลสสอนรัก ธรรมะสอนรู้

กิเลสสอนว่า …หาคู่ดีไม่ได้ อยู่เป็นโสดดีกว่า มีคู่ดีนั้นเป็นสุขที่สุดในชีวิต

ธรรมะสอนว่า … ผู้รู้ย่อมประพฤติตนเป็นโสด ส่วนคนโง่ฝักใฝ่ในเรื่องคู่ย่อมเศร้าหมอง

– – – – – – – – – – – – – – –

กิเลสจะเอาแต่สร้างเงื่อนไขให้ไปเสพสุขโลกีย์ จะมีคู่ยังต้องมีให้มันสุขยิ่งกว่าสุขเดิม ต้องมีให้เสพมากขึ้น พาให้ต้องการอย่างไม่รู้จักพอ โดยมีภาพฝันแบบอุดมคติไว้ว่าถ้าได้เสพอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันจะต้องสุขแน่นอน ความเห็นของกิเลสหรืออธรรมมักจะเป็นไปในแนวทางนี้ คือต้องแสวงหาตามที่หลงติดหลงยึดมาเสพจึงจะเป็นสุข

ส่วนธรรมะจะสร้างข้อปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลส ไม่ให้กิเลสได้เสพสมใจ ชะลอ ต่อต้าน ผลักไส ทำลาย ไล่บดขยี้กำลังของกิเลสที่มี การประพฤติตนเป็นโสดคือการทำลายเหตุแห่งการไปมีคู่เรื่อยๆ จนหมดสิ้น ตั้งแต่ภายนอกจนไปถึงภายใน ภายนอกเราก็ไม่ไปยั่วกิเลสใคร ไม่แต่งตัวแต่งหน้า ไม่ทำให้ตนดูโดดเด่นล่อตาล่อใจใครไม่สื่อสารเรื่องที่จะพาให้รักใคร่ชอบพอกันในเชิงชู้สาว ภายในเราก็ล้างความใคร่อยากเสพสุขลวงจากการมีคู่ออกจากจิตใจเสีย กำจัดกิเลสออกจากจิตวิญญาณ โดยใช้ธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว

เรามีสิทธิ์เลือกที่จะฟังคำสอนจากทางใดก็ได้ ไม่ว่าจะฟังกิเลสก็ตาม จะฟังธรรมะก็ตาม แต่ความแตกต่างนั้นคือผลที่จะได้รับ กิเลสนั้นพาให้เกิดความทุกข์ ความชั่ว ความเบียดเบียน โทษภัยสารพัด ความฉิบหายวายวอดทั้งชีวิตและจิตใจ ส่วนธรรมะจะพาให้เกิดความสุข ความดี ความเกื้อกูล ความเจริญงอกงามทั้งชีวิตและจิตใจเช่นเดียวกัน เรามีอิสระที่จะเลือก และเลือกตามที่เราเห็นว่าเหมาะควร แต่สิ่งที่เราเลือก จะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เราจะได้รับเช่นกัน

กิเลสคือความหลงว่าสิ่งผิดเป็นสิ่งถูก หลงว่ารู้ทั้งๆที่ตนเองไม่รู้ ธรรมะคือความจริงที่จะสอนให้รู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควรเพราะอะไรอย่างมีเหตุผล ผู้หลงมัวเมาย่อมจมอยู่กับการเสพสุขที่เต็มไปด้วยโทษภัยและการเบียดเบียน ส่วนผู้รู้ย่อมพาตนออกจากเหตุที่จะทำให้เป็นทุกข์เหล่านั้น

– – – – – – – – – – – – – – –

29.1.2559

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)