Tag: ซื่อสัตย์

หากจะรัก

December 11, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,783 views 0

หากจะรัก

หากจะรัก

…จะดีไหมหากจะรักใครสักคนที่แสนดีกับเหตุผลดีๆมากมายกว่า 20 ข้อ

ก่อนที่เราจะตัดสินใจอะไรไป ก่อนที่ความสัมพันธ์จะใกล้ชิดมากกว่าเดิม ก่อนที่จะยอมพลีกายถวายชีวิตให้กับใครสักคนที่เราคิดว่าเขาดีแสนดีกับเราเหลือเกิน จะดีไหมหากเราจะลองทบทวนดูกันอีกครั้งในเรื่องราวของความรัก

(!คำเตือน! เนื้อหาในบางตอนของบทความนี้มีเนื้อหาค่อนข้างแรง แต่จำเป็นต้องชี้ให้ชัดถึงปัญหาและปัจจัยที่ซับซ้อนในเรื่องของคนคู่ ผู้อ่านควรทำใจไว้ล่วงหน้าสักหน่อย หรืออาจจะปล่อยให้บทความนี้ผ่านไปก็ได้)

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เป็นสัจจะที่ทุกคนรู้กันดีอยู่ คงจะเป็นเรื่องยากที่จะให้ใครสักคนมองเห็นทุกข์ในความรักในขณะที่เขาหรือเธอกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งรัก ดังประโยคที่ว่า “ความรักทำให้คนตาบอด” หมายถึงทำให้เรามองไม่เห็นความจริง เพราะเราได้ลำเอียงเพราะรักไปแล้ว แม้ว่าจะมีคนบอกว่าทุกข์สุดทุกข์เพียงไรก็ยังยินดีที่จะเข้าไปสัมผัสกับความรักนั้น

เขาก็เป็นคนดีนะ เขาก็ดูแลเราดีนะ คบกันแล้วเจริญไปด้วยกันไม่ได้หรือ คบกันแล้วมีความสุขกว่าโสดไม่ดีกว่าหรือ เรามักมีเหตุผลมากมายในการเริ่มความสัมพันธ์ใดๆก็ตามที่เราหลงรักไปแล้ว แต่จะดีไหมถ้าหากว่าเราได้รับข้อมูลมากขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนสถานะจากโสดไปเป็นมีคู่

ในบทความนี้จะนำข้อคิดเห็นเกี่ยวกับคนที่ยินดีจะครองคู่มาอธิบายและชี้ให้เห็นถึงกิเลสที่อาจจะแอบซ่อนอยู่ในความดี ในความสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นข้อมูลให้พิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งจะรวบรวมมาทั้งหมด 20 ข้อ

1)…เข้าใจเรายอมรับที่เราเป็น

การเข้าใจและยอมรับเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้คนเปิดใจ หลายๆคนมักจะมีข้อเสียในตัวเองและยอมรับข้อเสียนั้น รอเพียงคนที่จะมาเข้าใจและยอมรับข้อดีข้อเสียต่างๆได้ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขายอมรับได้จริงๆ

เวลาเราอยากได้อะไร แม้จะมีราคาแพง หายากแค่ไหนเราก็ซื้อ ตามไปหาซื้อ พากเพียรเพื่อให้ได้มาจริงไหม แต่ลองเราได้สิ่งนั้นมาชื่นชมนานๆแล้วอาจจะคิดกลับไปได้ว่าทำไมเราต้องลำบากจะเสียเงินมากมายเพื่อมาซื้อของชิ้นนี้ด้วย จริงๆมันก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา แถมปัญหายังเยอะ ชิ้นอื่นก็มีให้เลือกตั้งเยอะแถมยังดีกว่าถูกกว่า

เรื่องคู่ก็เช่นกันถ้าเราอยากได้คู่ สิ่งที่ต้องให้ไปก็คือการเข้าใจและยอมรับที่เขาเป็น เพื่อที่จะให้ได้เขามาเสพสมใจเรา ใครจะรู้ได้ละว่าความเข้าใจนั้นจะยั่งยืน แล้วจะยอมรับตัวตนของเขาได้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ หากเราเสพเขาจนเบื่อหรือเขาเริ่มจะมีปัญหามากขึ้น งอแง เอาแต่ใจ โมโหร้าย เราจะยังเข้าใจและยอมรับไหวอยู่หรือในเมื่อเราได้เสพทุกอย่างสมใจทุกอย่าง สุขมันเกิดไปแล้วได้ไปแล้ว ยังจะอยากทนทุกข์อยู่อีกหรือ

ถ้าพูดกันตรงๆเลยก็คือการที่เขาชอบในส่วนที่ดีและยอมรับในข้อเสียของเราได้นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้

2)…สนับสนุนเส้นทางฝัน มีอนาคตร่วมกัน

หลายคนอาจจะคิดว่าการครองคู่สู่ฝัน สู่อนาคตอันมั่งคั่งร่วมกันนั้นเป็นเรื่องที่น่าจะนำความสุขมาให้เมื่อมีคนร่วมฝัน ร่วมทางเดิน เราอาจจะแบ่งปันความฝัน ความคาดหวังร่วมกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะอยู่จนถึงฝั่งฝันด้วยกันเสมอไป

ขึ้นชื่อว่าฝัน นั้นก็เป็นเรื่องที่ยังไม่เป็นจริง และกว่าจะเป็นจริงได้นั้นต้องพิสูจน์กำลังใจของคนอย่างมากมาย ดังประโยคที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ในระยะแรกนั้นการขายฝันอาจจะไปเร่งให้อีกฝ่ายมีกิเลสร่วมกัน ใช้ความอยากเป็นตัวผลักดัน แต่พอเริ่มไปได้ระยะหนึ่งอาจจะพบว่ามันเริ่มยากเริ่มลำบาก และแต่ละคนก็มีกิเลสไม่เท่ากัน บางคนอาจจะท้อไปก่อน หรือเห็นต่างกันไปในเส้นทางเดินตามฝัน

แม้ว่าเป้าหมายจะเป็นความมั่งคั่ง ชีวิตที่ผาสุก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนยินดีจะเดินไปในเส้นทางเดียวกันเสมอไป บางคนชอบทางสั้นแม้จะเสี่ยง บางคนชอบทางยาวแต่ปลอดภัย ตรงนี้นี่เองที่จะทำให้ฝันล่มรักสลายกันไปได้

3)…แสนดีเอาอกเอาใจ

การเจอใครสักคนที่แสนดีเอาอกเอาใจนั้น ยากนักที่จะทำใจไม่ให้หลงไปได้ เพราะคนส่วนมากก็ต้องการให้คนอื่นเห็นคุณค่า ให้การดูแลเอาใจใส่ เอาอกเอาใจ หรือที่เรียกกันแบบตรงๆว่าปรนเปรอกิเลส

เมื่อเราต้องการใครสักคนเข้ามาร่วมชีวิต วิธีที่เราทำส่วนใหญ่คือปรนเปรอกิเลสของฝ่ายตรงข้าม ชมบ่อยๆ พาไปกินอาหารดีๆ เป็นที่ปรึกษา ให้คุณค่า แม้แต่การสนองต่อความต้องการทางเพศก็กลายเป็นเรื่องปกติที่หลายคนใช้มัดใจคู่ของตน เขาชอบอบายมุขก็ส่งเสริมด้วยอบายมุข เขาชอบกามก็ส่งเสริมด้วย อาหารอร่อย แต่งตัวสวยงาม ใส่น้ำหอม จับมือถือแขนจนไปถึงยอมสมสู่ ถ้าเขาชอบโลกธรรมก็ชมเขา ยอมเขา ให้ความมั่งคั่งแก่เขา บำเรอเขาด้วยโลกีย์สุข ถ้าเขาเป็นคนมีอุดมการณ์ก็เติมเต็มอีโก้ของเขา สนับสนุนในสิ่งที่เขาคิด

เพียงแค่เราสามารถสนองกิเลสเขาได้ในทุกมิติ เราก็จะได้ชื่อว่าคนที่แสนดีเอาอกเอาใจแล้ว เพราะตอบโจทย์ทุกอย่างตามที่กิเลสต้องการ คนที่เข้ามาในชีวิตเราก็เช่นกัน เขาก็เพียงแค่สนองกิเลสเราจนเรายอมให้เขาบำรุงบำเรอเพราะสุขจากการได้เสพ

แล้วการส่งเสริมกันด้วยกิเลสมันดีไหม การบำรุงบำเรอกันด้วยกิเลสมันดีไหม ก็ลองคิดดู

4)…ผ่านสุขผ่านทุกข์มาด้วยกัน

หลายคนอาจจะยอมแพ้กับใจที่อดทนบากบั่นมาด้วยกัน ยอมอยู่ในวันที่เราลำบาก ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็ยังอยู่ข้างๆ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่านั่นคือนิสัยจริงเขาของ ไม่ใช่เขาทำเพื่ออยากเสพเราหรอกหรือ

ความอดทนเพื่อที่จะได้มาซึ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจอะไรยากนัก เมื่อคนเราหลงไปในสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็พร้อมจะยอมอดทน บากบั่น รอคอยเพื่อให้ได้มาเสพ แม้ว่าวันนี้จะดูเหมือนเขาพร้อมจะอยู่กับเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าเขาจะอยู่กับเรา เราใช้อดีตมาเพื่อทำนายอนาคตได้ แต่มันจะไม่ถูกเพราะสุดท้ายวิบากกรรมจะพาให้ต้องพรากจากทุกสิ่งทั้งความเชื่อที่เคยมี ทั้งความมั่นใจที่เคยได้รับ คู่แต่งงานที่ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกันแม้จะคบหากันมาก่อนแต่งงานหลายปี แต่สุดท้ายหลังแต่งงานก็มีเหตุให้เลิกราให้เห็นกันอยู่ทั่วไปจนเป็นเรื่องธรรมดา

5)…อบอุ่นและเป็นที่ปรึกษาที่ดี

วิธีมัดใจคนอย่างง่ายๆคือทำตัวให้ดูอบอุ่นรอคอย เหมือนเสือที่นอนหมอบรอเหยื่อเผลอ นักล่าที่เก่งกาจจะไม่รีบและเสียพลังงานในการล่าไปเปล่าๆ เขาเพียงแค่วางตำแหน่งไว้ในจุดที่เหมาะสม รอเหยื่อเกิดความทุกข์ เข้ามาปรึกษา ทำตัวเป็นคนอบอุ่น เป็นที่ปรึกษาที่ดี ใช้ช่วงที่คนกำลังจิตใจอ่อนแอและต้องการความรักจากใครสักคนเข้างับเหยื่อ

คนที่จริงใจอย่างแท้จริงจะไม่ฉวยโอกาสยามที่คนอื่นจิตใจอ่อนแอต้องการที่พึ่ง เราจะเห็นได้จากผล ถ้าปรึกษาแล้วหายไปก็คือจบ แต่ถ้าปรึกษาแล้วกลายเป็นคู่กันต้องระวังให้ดี

6)…ซื่อสัตย์ซื่อตรง

ความซื่อสัตย์ เสมอต้นเสมอปลายนั้นเป็นคุณสมบัติที่หลายคนให้น้ำหนัก เพราะถ้าไปคบกับคนเจ้าชู้คงจะปวดหัวอยู่ไม่น้อย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความซื่อสัตย์นั้นมาจากหัวใจที่ปราศจากกิเลส

คนที่อยู่ตรงหน้าอาจจะเหมือนลูกเสือที่ยังไม่โตก็ได้ เวลาเรามองสัตว์เด็กมันก็น่ารัก ขี้อ้อนดี แต่พอมันโตชักจะไม่น่ารักเท่าไร อาจจะพร้อมขย้ำเราได้ทุกเมื่อหากว่ามันโกรธหรือหิว ความซื่อสัตย์ที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันก็เป็นเพียงปัจจุบันแต่ไม่สามารถยืนยันอนาคตได้ ดังเช่นคู่แต่งงานหลายคู่ ต่อหน้าสาธารณชนก็ประกาศว่าจะรักและซื่อสัตย์แล้วผลเป็นอย่างไรล่ะ

7)…ดูมั่นคง ภูมิฐานรับผิดชอบพึ่งพาได้

ตรงนี้เราต้องแบ่งให้ชัดว่าเราชอบเขาหรือชอบเงินหรือฐานะของเขา หลายคนยอมทิ้งความรักเปลี่ยนไปคบหากับลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และสร้างความรักใหม่ โดยใช้ข้ออ้างว่าความมั่นคงในชีวิต ดังประโยคที่ว่า “รักมันกินไม่ได้” ตรงนี้อาจจะหลงประเด็นไปเพราะเรื่องรักกับเรื่องโลภเป็นคนละเรื่องกัน อยากสบาย อยากรวย ไม่อยากทำงานก็เรื่องหนึ่ง ความรักความผูกพันก็เรื่องหนึ่ง แต่ก็อย่างว่าพลังกิเลสด้านไหนมีสูงกว่าคนก็เลือกด้านนั้นแหละ

ไม่แปลกที่เหล่าคนรวยจะสามารถเปลี่ยนคู่ครองได้มากหน้าหลายตา เหมือนหยิบดอกไม้มาดอมดม ลองชิมสักหน่อย สุดท้ายก็ขว้างทิ้งไป แล้วหาดอกใหม่มาดม คนมีทรัพย์มากมีชื่อเสียงมากก็เหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ มีมากมายให้เลือกสรรสร้างเวรสร้างกรรมมากมายตราบเท่าที่เงินยังพอมีให้ผลักดันกิเลส

8)…งามน่าหลงใหลและยากจะปล่อยมือ

เรื่องปกติสามัญของคนทั่วไปเลยก็คือชอบคนสวยคนหล่อ แม้จะนิสัยไม่ดี มีปัญหาอย่างไร แต่ถ้าได้เสพความสวยงามเหล่านั้นก็ยอมได้ หลงไปในกามทั้งหลายจนหน้ามืดตามัว เห็นกงจักรเป็นดอกบัวมาก็มากแล้วสำหรับความสวยงามนี่ เพราะใจมันจะไม่สนเหตุผล ไม่สนดีชั่ว มันจะเสพกามอย่างเดียว อยากได้คนสวย คนงาม คนหล่อ เหตุผลอื่นๆไว้สร้างทีหลัง

9)…อยู่กับเราแม้ในวันที่เราไม่สวยงาม

บางคนสามารถเอาชนะใจคู่ของตนได้โดยการยอมบ้างในบางที แต่เพราะยังติดใจในรสชาติหลายๆอย่าง แม้เขาหรือเธอจะไม่ได้งดงามเหมือนในวันแรกหรือวันทั่วๆไปที่ได้เจอ แต่ก็ยอมเสพสมใจกันอยู่เพราะแม้ว่าจะไม่สวยไม่งาม แต่ก็สามารถสนองกิเลสได้ สนองตัณหาได้อีกมากมาย เป็นนักลงทุนที่มองว่าได้กำไรน้อยยังดีกว่าไม่ได้เลย ขอเสพน้อยดีกว่าไม่ได้เสพเลย

10)…เย้ายวนรัญจวนใจ

ประเด็นเรื่องการสมสู่หรือเรื่อง sex นี้เองเป็นประเด็นหลักในการมีคู่ แม้เราจะมีคำพูดสวยหรูเพียงใดสุดท้ายก็จบที่เรื่องสมสู่อยู่ดี โดยเนื้อแท้แล้วความรักกับการสมสู่เป็นคนละเรื่องกัน แต่คนชอบเอามาปนกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน ความรักนั้นคือความอยากที่จะให้ เช่น ความรักของพ่อแม่ แต่ความหลงไปทำให้เข้าใจว่ารักกันแล้วต้องสมสู่กัน

หากคิดว่าตนเองไม่ได้ติดเรื่องการสมสู่ก็ลองถือศีลละเว้นการสมสู่ดู จะเห็นกิเลสดิ้นพล่านอยากเสพจนหาเหตุผลต่างๆนาๆมาเพื่อได้เสพ บางคนสามารถอดทนรอจนวันแต่งงานได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่หลงในการสมสู่ มันแค่กดไว้ ข่มไว้เท่านั้น พอได้ปล่อยเสือออกจากกรงเมื่อไหร่มันก็ออกมาขย้ำคนเมื่อนั้นเอง

11)…ไม่เจ้าชู้ ไม่นอกใจ ไม่เกเร

คนเราพอติดและหลงมัวเมาในเรื่องสมสู่มากๆก็จะเริ่มเจ้าชู้ เพื่อหารสชาติใหม่ๆมาเสพให้สมใจ คนที่ไม่เจ้าชู้ไม่นอกใจ ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะไม่เจ้าชู้ เขาอาจจะเพียงแค่รอเสพอาหารจานหลักให้อิ่มก่อนแล้วถ้าเบื่อๆค่อยไปหาขนมกินที่อื่นก็ได้

ความไม่เจ้าชู้นั้นก็มีอยู่ในสัตว์เช่นกัน ดังเช่นนกเงือก เป็นสัตว์เดรัจฉานที่คนให้ความหมายว่ารักเดียวใจเดียว เห็นไหมว่าแค่รักเดียวใจเดียวสัตว์มันก็ทำได้ เราเป็นมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐแค่รักเดียวใจเดียวมันก็พอๆกับสัตว์นั่นแหละ แต่เพราะเราสามารถรักได้มากกว่าจึงมีศีลที่งดเว้นการสมสู่ ซึ่งจะเหนือกว่าศีลที่ไม่นอกใจ เมื่อไม่อยากสมสู่แล้วมันจะไปนอกใจได้ที่ไหน เพราะประเด็นเรื่องการเจ้าชู้ นอกใจนี่มันก็มาจากเรื่องติดกาม ติดการสมสู่นี่แหละ

12)…คือคนที่ใช่ มั่นใจตั้งแต่แรกเห็น

บางทีกรรมอาจจะชักนำบางคนเข้ามาหาเรา แต่บางทีก็เป็นกิเลสเราเอง เช่นเราชอบคนหน้าตาแบบนี้ พอไปเจอคนแบบนี้เราก็หลงรักแล้วหมายมั่นว่าเขาใช่ ทั้งๆที่เป็นกิเลส เป็นการหลงไปในมโนมยอัตตาหรือตามที่จิตตนปั้นขึ้นมาเอง คือปั้นสเปคไว้ประมาณนี้ พอเจอคนประมาณนี้ก็ “ใช่เลย” เป็นความหลงแบบแท้ๆไม่มีอะไรเจอปน อยากรู้ว่าเป็นคนที่ใช่จริงไหมก็ลองห่างลองหนีดู ถ้ามันใช่จริงจะหนีไม่ค่อยพ้น

13)…ดูดวงมาเขาทักว่าใช่เลย

ใครพบรักด้วยมุมนี้หรือปักใจว่าเขาหรือเธอคือคนที่ใช่ด้วยมุมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทายทักจากใครหรือประเภทการทำนายแบบใด ขอให้เข้าใจไว้ว่าการทำนายดวง ดูดวง ดูโหงวเฮ้ง เป็นเดรัจฉานวิชา ชาวพุทธไม่ควรกระทำเพราะจะทำให้ไม่เชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรม

ผลมันก็ออกมาได้ทุกหน้าตั้งแต่ดียันไม่ดี ทั้งนี้เป็นผลจากการกระทำ ไม่ใช่เพราะใครทำนายทายทัก เราอยากได้คู่ที่ดีเราต้องหาเอง คัดเอง เลือกเอง ทดสอบเอง อย่าเพิ่งไปหลงปักใจเชื่อเพียงเพราะคนมีชื่อเสียงเขาทำนายมา

14)…เข้ากันได้เติมเต็มในกันและกัน

มุมนี้จะเห็นคนที่ขาดพร่องแต่ก็พยายามหาคนมาเติมเต็มในชีวิต เช่นคนพูดมากอยากได้คนพูดน้อย คนขี้เกียจอยากได้คนขยัน ซึ่งในมุมการเติมนี้จริงๆมันก็มาจากการเติมเต็มกิเลส เติมให้สมกิเลส เราพูดมากเราก็อยากได้คนฟังเราไม่อยากให้ใครพูดแข่ง เราขี้เกียจเราก็อยากได้คนขยันจะได้มาช่วยงานเรา เข้ากันได้เติมเต็มกันได้จึงเป็นคำพูดสวยๆที่กิเลสเอาไว้หลอกให้คนหลงเสพหลงยึดเรื่อยไป

15)…เป็นคนดีจนต้องยอมรับในความดี

แม้ว่าเราจะเจอคนดีแสนดีที่เหมือนพ่อพระแม่พระ ใครต่อใครต่างก็ยืนยันในความดีของเขา จนเชื่อมั่นและมั่นใจได้ว่าดีจริงๆ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ความดีที่ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในการครองคู่นั้นก็ยังสร้างทุกข์ โทษ ภัย ผลเสียให้กับชีวิตอยู่ไม่มากก็น้อย

เราต่างมีกรรมเป็นของตน ดังนั้นการที่เราเข้ามาร่วมชีวิตกันก็อาจจะต้องมีส่วนรับวิบากจากการครองคู่ด้วย เช่น เขาเป็นคนดีมาก แต่หลังจากแต่งงานไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพาต ด้วยความที่เขาเป็นคนดีมากเราจึงทิ้งเขาไม่ได้ ต้องแบกภาระตรงนี้ไปด้วย แม้การช่วยเหลือเกื้อกูลจะเป็นบุญกุศลใหม่ แต่ก็ยังเรียกได้ว่าต้องทำไปพร้อมกับทุกข์อยู่ดี เพราะความสมบูรณ์แบบก็ไม่ได้เสพ การดูแลเอาใจใส่ก็ไม่ได้เสพ แถมยังต้องเหนื่อยมากขึ้นอีก

แม้คนดีที่คิดจะยังครองคู่อยู่ นั้นก็ยังเป็นคนดีที่ยังไม่ดีแท้อยู่นั่นเอง เพราะยังไม่เข้าใจในทุกข์โทษภัยของกิเลสและบ่วงกรรมที่จะเกิดขึ้น

16)…รักเรามากกว่ารักตัวเอง

สิ่งที่ทำให้เราประทับใจในคู่รักอย่างหนึ่งก็คือการเสียสละ การแสดงออกที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขารักเรามากกว่าตัวเอง เป็นการกระทำที่พาให้หลงเคลิ้มไปได้ง่าย แต่ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปลองตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเขาทำแบบนี้กับคนที่เขารักทุกคนหรือไม่ เขาปฏิบัติกับพ่อแม่ญาติพี่น้องดีเท่ากับปฏิบัติต่อเรารึไม่ เขาลำเอียงให้เวลาเรามากกว่าครอบครัวหรือไม่

ถ้าเขาไม่ได้ดูแลครอบครัวที่รักและเลี้ยงดูเขามาทั้งชีวิต แต่กลับมาทุ่มเทให้กับเรา พึงรู้ไว้เลยว่านี่เป็นเพียงละครฉากหนึ่งของกิเลสที่พาให้หลงไป เขาก็หลงเรา เราก็หลงเขา เพราะเขาหลงเขาจึงแสดงออกว่ารักเราได้มากกว่าตัวเอง แต่ถ้าไม่หลงแล้วคนที่มีพระคุณอย่างพ่อแม่นั้นเขาก็ควรจะให้ความสำคัญเหมือนเราหรือมากกว่าเรา

คนที่ดูแลครอบครัวไม่ดีแต่มาดูแลเราดีนั้นแสดงให้เห็นถึงบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป เราเองเป็นแค่คนใหม่ที่เข้ามาในชีวิตของเขา แล้วทำไมเขาจึงทุ่มเทขนาดนี้ หรือเขากำลังหวังจะเสพอะไรจากเรา

17)…เป็นคนรักครอบครัวที่บ้านยอมรับ

ทักษะการเข้าสังคมเป็นเรื่องสำคัญในการมัดใจคู่ครอง เพราะถ้าไม่สามารถมัดใจไปถึงครอบครัวได้ก็ยากที่จะได้เสพสมสู่กันอย่างถูกกฎหมาย ถูกจารีตประเพณี ดังนั้นการที่คนใดคนหนึ่งจะมีมนุษย์สัมพันธ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจริงใจ ใครเล่าจะรู้กิเลสเบื้องลึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากที่มีแต่รอยยิ้ม

แรกๆที่แต่งงานไปอาจจะมีความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวที่ดี แต่พอได้เสพสมใจ ได้สมสู่ ได้สถานะสามีภรรยาแล้วก็ไม่ต้องสนใจใครอีก หน้ากากคนดีอาจจะหลุดออกตอนนั้นก็เป็นได้ใครจะรู้

18)…สร้างครอบครัวที่มีแต่ความสุข

เป็นเหมือนกับความฝันที่โดนโลกหลอกมาเสมอด้วยคำว่าความสมบูรณ์ในชีวิตต้องมีครอบครัว ตอนจบในหนังพระเอกก็รักกับนางเอกทั้งนั้น เป็นความหลงผิดที่แสนจะน่าสงสาร เพราะโดยสัจจะที่ว่า “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์” มันจะต้องเกิดทุกข์แน่ๆอยู่แล้ว

ทีนี้ด้วยความลำเอียงของเรา ลำเอียงเพราะรัก เราจึงยินดีที่จะรัก ยอมรับทุกข์และสุขเหล่านั้น แต่ใครจะรู้กันบ้างว่าที่จริงมันสุขน้อยทุกข์มาก รสสุขที่เคยเสพตอนต้นนานวันไปมันก็จะเบื่อจะคลาย แม้การสมสู่ที่เคยหลงใหลได้ปลื้มก็จะเป็นเพียงแค่กายบริหารที่ทำก็ได้แต่ไม่ทำจะดีกว่าเพราะมันน่าเบื่อ นำมาสู่ปัญหาคบชู้ มีเมียน้อย มีกิ๊กอะไรกันมากมาย เพราะรสสุขมันไม่เหมือนวันแรก

ถ้าอยากลองทดสอบก็ลองกินอาหารที่ตัวเองชอบมากๆ จะอมไว้ในปากหรือกินทุกวันก็จะเริ่มเห็นแล้วว่ามันไม่ได้สุขเหมือนคำแรก แม้จะชอบมากเท่าไหร่กินบ่อยๆมันก็เบื่อเหมือนกัน

จริงๆแล้วโดยส่วนใหญ่ทุกคนก็มีครอบครัวกันอยู่แล้ว มีพ่อ มีแม่ มีญาติพี่น้อง มีเราเป็นลูก มันก็ครบอยู่แล้ว จะไปหาเพิ่มทำไม่ให้มันลำบาก แต่คนมีกิเลสจะมองว่าตัวเองขาดตัวเองพร่องก็เลยต้องหามาเติมอยู่เรื่อยไป

19)…อยากมีลูก นี่คือพ่อของลูก แม่ของลูก

ความฝันหนึ่งของการมีคู่คืออยากมีลูก มีหลายคนที่อยากมีลูกแม้ว่าจะไม่มีคู่ครองก็ตาม ทั้งหมดนั้นเกิดจากเราไปเห็นภาพที่สวยงาม ภาพที่น่ารักของเด็กทารก ถ้าลองได้เลี้ยงหรืออุ้มชูใครสักคนจนเขาเติบโตกระทั่งสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองจะพบว่าเหนื่อยแสนเหนื่อย

เหมือนกับตอนที่เราเห็นสัตว์เด็ก ลูกหมา ลูกแมว เราก็เห็นว่ามันน่ารัก แต่พอเริ่มโตมามันชักจะไม่น่ารัก กินจุ สร้างปัญหา พาปวดหัว มีหลายคนที่พาสัตว์เลี้ยงไปปล่อย แต่การมีลูกนั้นปล่อยไม่ได้ ทิ้งไม่ได้ เมื่อสร้างภาระนี้แล้วก็ต้องหอบภาระนี้ไป 20 – 30 – 40 ปี หรือจนกว่าเขาจะตายจากไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาแล้วมีศักยภาพในการดูแลตัวเองหรือพ่อแม่ บางคนเกิดมาพิกลพิการ พ่อแม่ก็ต้องดูแลไปจนตาย

ส่วนคนที่หวังว่าลูกจะกลับมาดูแลตัวเองตอนแก่นั้นอาจจะเป็นการคิดฝันที่ไกลไปสักหน่อย เขาอาจจะไม่อยู่จนถึงวันนั้นก็ได้ และถึงเขาจะอยู่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมาสนใจเราก็ได้

20)…เราจะรักกันตลอดไปจนวันสุดท้าย

สรรพสิ่งใดๆในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง ตัวเราก็ไม่เที่ยง ตัวเขาก็ไม่เที่ยง กิเลสก็ไม่เที่ยง กรรมก็ไม่เที่ยง แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ความรักนั้นจะเที่ยง จะมั่นคง จะดำรงอยู่กันจนวันสุดท้าย ข้อความนี้เป็นประโยคขายฝันที่ทำให้หลงมากที่สุด เป็นคำยืนยันสัญญาที่ทุกคู่แต่งงานนิยมใช้ แต่จะมีสักกี่คนที่จะสามารถดำรงสภาพของความรักให้ถึงวันสุดท้ายได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะคิดเอา ฝันเอา แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วกิเลสมากมายได้ตั้งด่านรอเราอยู่ ซึ่งเราเองก็อาจจะพลาดพลั้งเผลอไปตอนไหนก็ได้เช่นกัน

….อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ขอให้เราพิจารณากันให้ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป เพราะหากเราตัดสินใจไปแล้วใช่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงเอาง่ายๆ เราต้องรับกรรมที่เราตัดสินใจไว้ด้วยเช่นกัน

– – – – – – – – – – – – – – –

8.12.2557

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์