สัมมาศูนย์บาท มิจฉาค่าตัวแพง

July 3, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 974 views 0

สมัยศึกษาแรก ๆ แสวงหาหนทางธรรมใหม่ ๆ ผมก็เคยหลงไปหลงมาอยู่เหมือนกัน เพราะโลกนั้นร้ายลึก ทางหลงมากกว่าทางรู้ มันก็เป็นธรรมดาที่จะพลาดท่าเสียเวลาไป

แรก ๆ ก็สนใจศึกษาจากที่มันคล้าย ๆ ไลฟ์โค้ช แต่เขาอิงศาสนาพุทธเยอะ เขาก็เอาพุทธมาประยุกต์ แรก ๆ ยังไม่ดังก็สอนฟรีอยู่บ้าง แต่หลัง ๆ มีบริวารก็เริ่มเก็บเงินมากขึ้นและแพงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหลักหมื่น หลักแสน

ตอนนั้นผมก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดที่จะเอาไปใช้จ่ายในเรื่องนี้ แล้วมันก็ตะหงิด ๆ ในใจด้วยว่า แบบนี้มันไม่ควรนะ ก็เลยแสวงหาทางอื่นไปเรื่อย ๆ

จนพบครูบาอาจารย์ที่สอนฟรี ให้กินฟรี ที่พักฟรี รักษาฟรี มีแต่การแบ่งปัน ไม่มีเรื่องมารยาทสังคมเรื่องเงินให้ต้องมาเกรงใจ คือไม่มีการเรี่ยไรทั้งทางตรงทางอ้อม ไม่มีการเรียกร้องให้บริจาคตามกำลังศรัทธาให้ลำบากใจ แถมยังต้องตั้งกติกากันอีกว่าถ้าจะช่วย ห้ามเกินที่กำหนด

พอศึกษาตาม ผ่านมาหลายปี ผมก็พบว่าถูกแล้ว ดีแล้วที่เราไม่ไปจ่ายเงินเรียนธรรมะ ดีแล้วที่เราไม่ไปสนับสนุนคนไม่ดี เพราะจากที่เราเห็น ยิ่งนานไป เขาก็จะยิ่งแสวงหาโลกธรรม หาชื่อเสียง หาเงิน ล่าบริวาร ตรงข้ามกับพุทธะทุกอย่าง ถ้าเราตามไปก็ไปนรกนั่นแหละ

เพราะพระพุทธเจ้าและสาวกท่านก็สอนฟรี ไม่ได้เก็บเงิน แม้สาวกที่เป็นฆราวาสก็สอนกันฟรี เรื่องธรรมะไม่มีใครเขาเอามาหากิน ธรรมทานเป็นของประเสริฐ ไม่ใช่ของซื้อขาย ก็เป็นอันเข้าใจว่าที่ถูกต้อง ค่ารวม ๆ ถ้าจะพากันเจริญคนสอนต้องพึ่งตัวเองได้ แล้วแสดงความจริงให้เห็นเลยว่าธรรมะเนี่ยไม่เรียกร้องจากใคร มีแต่ให้

แต่คนมิจฉา เขาก็จะรู้ทางหนีทีไล่ เขาจะไม่เอาภาพพุทธสาวกมาใส่ เขาก็จะตั้งชื่อของเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สร้างบริบทขึ้นมาใหม่ แล้วก็เอาธรรมะมาหากิน พอเวลามีคนติ เขาก็จะมีทางหนี ทางเลี่ยง ตามที่เขาคิดไว้ว่าหนีได้

โดยสัจจะแล้วไม่มีใครหนีได้ กรรมทำแล้วต้องรับ ใครเอาธรรมะมาหากินนั้นบาปทั้งสิ้น เอามาหาเงินนี่หยาบร้ายมาก ขนาดทุกวันนี้ยังมีคนห่มจีวรเพื่อมาหาเงิน ทุกวันนี้มันเละไปหมดแล้ว ทำลายศาสนากันด้วยความโลภ สำคัญคือผู้ที่ตั้งตนเป็นแกนหลักที่มีอำนาจบริหารไม่จัดการ แสดงว่าเน่าในกันหมดแล้ว

ก็มีเหมือนกัน คนที่เคยรู้จักกัน เขาก็ไปหลงกับผู้แสวงหาในทางผิดเหล่านั้น ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาหรอก มันก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะเลือกชีวิตไปในเส้นทางไหน เลือกที่จะศรัทธาใคร เลือกที่จะทำตามใคร

เราก็เลือกได้แต่เส้นทางของตัวเอง ว่าเราจะทำตามครูบาอาจารย์นี่แหละทำตามท่าน ทำงานฟรี ช่วยคนฟรี ฝึกเสียสละให้หมดใจ อย่าไปเอาอะไรมาแลกแม้รอยยิ้มและคำขอบคุณ

ผมว่าคนที่เขาเก็บเงินคนที่มาปรึกษานี่เขาใจร้ายมากเลยนะ คนเขาทุกข์มาแล้ว เรายังจะไปเก็บเงินเขา ให้เขาลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก มันจะซ้ำเติมกันไปถึงไหนนั่น แม้เขาจะยินดีจ่าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะมีกำลังจ่าย

ช่วยคนฟรีดีกว่า คัดกันด้วยศีลธรรมนี่แหละ จะช่วยใครก็แค่ดูทรงว่าตั้งใจปฏิบัติไหม มีศีลไหม ทำความดีเสียสละอะไรมาบ้าง ถ้ามีพื้นฐานดี มันก็น่าจะช่วยกันไม่ยาก แต่ถ้าแบบศีลไม่มี อัตตาจัด รู้ทุกเรื่อง เก่งทุกอย่าง เถียงทุกคำ แบบนี้เอาไว้ก่อน เราน่าจะยังมือไม่ถึง คงต้องขอยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม มีศีลตั้งใจปฏิบัติธรรมแล้วค่อยมาว่ากัน

Related Posts

  • กรณีศึกษา ไลฟ์โค้ชที่ไม่มีศีล ช่วงก่อนนี้มีเรื่องราวในสังคมเกี่ยวกับไลฟ์โค้ชที่ทำงานไม่โปร่งใส ไม่ทำงานไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ มีอาการหมกเม็ด ไม่ชัดเจน สังคมจึงพากันจับตาในประเด็นนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในโลกโซเชียล เป็นอันดับต้น ๆ […]
  • เห็บศาสนา เปรต เทวดา ไม่ว่าศาสนาไหนก็ล้วนแต่มีโลกธรรมอันหอมหวานทั้งสิ้น ศาสนาพุทธก็เช่นกัน คนที่เข้ามาปฏิบัติอยู่ในสำนักก็มักจะได้โลกธรรม ได้ลาภสักการะ บริวาร ซึ่งเป็นสิ่งหอมหวานยั่วยวนกิเลสคนชั่วยิ่งนัก จึงมีคนชั่วที่แสร้งปลอมปนเข้ามาเพื่อเสพผลเหล่านั้น […]
  • ศรัทธา ศรัทธา คนไม่มีศรัทธา พาตัวเองออกจากศาสนา คนศรัทธาน้อย พาเงินเข้าวัด คนศรัทธาดี พาธรรมเข้าสังคม คนศรัทธามาก พากิเลสออกจากตน คนศรัทธาเต็ม ชี้ทางนำกิเลสออกจากผองชน . . . . . . . . . . . . . . . . . […]
  • ความบริสุทธิ์ใจคือตัวแปรความสำเร็จของไลฟ์โค้ช ไลฟ์โค้ช ถ้าว่ากันตามความเข้าใจทั่วไปก็คือคนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับชีวิตนั่นแหละ ส่วนจะจำแนกแจกแจง กำหนดสัญญายังไงก็แล้วแต่ภาษา แต่การปฏิบัติก็คือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับชีวิต แม้ว่าไลฟ์โค้ช จะเป็นคำใหม่ที่มีมาในสังคมไทยไม่นานนัก […]
  • ไลฟ์โค้ช ไลฟ์โค้ช เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกระแสสังคมเกี่ยวกับคำว่า ไลฟ์โค้ช ก็เลยไปลองหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ดูเหมือนว่าไลฟ์โค้ช จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ "ครูบาอาจารย์" คือการตั้งตนเป็นที่พึ่ง แต่ลักษณะเด่นของไลฟ์โค้ช […]

ฝากความคิดเห็น : Leave a Reply