คู่มือคนโสด
ความรักของข้ามันเห็นแก่ตัว มันต้องการที่จะครอบครอง
ความรักของข้ามันเห็นแก่ตัว มันต้องการที่จะครอบครอง
ความรักที่คิดจะครอบครองนั้น เป็นเหตุให้เราสร้างบาปและเป็นทุกข์ได้เสมอ เป็นทั้งการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ไม่เป็นไปเพื่อความสุข ความเจริญ หรือการพ้นทุกข์ใดๆ
จากละครพระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลกตอนที่ ๔๖ หญิงสาวคนหนึ่งได้ตกหลุมรักพระอานนท์จนแสวงหาวิธีที่ผิดในการครอบครองสิ่งที่หลงรักนั้น ซึ่งความอยากที่จะครอบครองสิ่งที่ตนรักไว้เป็นของตนเพียงผู้เดียวนี้เอง คือความเห็นแก่ตัวอย่างแท้จริง
ไม่ว่าเราจะคิดครอบครองด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จะครอบครองแค่เสี้ยววินาทีหรือตลอดไปจนชั่วนิรันดร์ มันก็ยังเป็นความเห็นแก่ตัวอยู่ดี คนเรามักจะหาเหตุผลที่ดูดี น่าเชื่อถือ ดูเป็นที่น่ายอมรับให้เกิดการครองคู่ ได้ครอบครองโดยความชอบธรรม นั่นเป็นความเห็นแก่ตัวที่ละเอียดลึกลับซับซ้อน ซ่อนความชั่วไว้ในความดี เหมือนยาพิษที่แทรกลงไปในแต่ละอณูของเกล็ดน้ำตาล
“นิยามความรักของพระอานนท์ ต่างจากความรักที่เจ้าคิด” เป็นเนื้อหาในบทพูดตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้าในละครตอนนี้ ความรักของพุทธนั้นมีอิสระ ไม่ถูกจำกัดไว้ในเรื่องของครอบครัว คู่รัก ญาติ มิตร ฯลฯ แต่เป็นสิ่งที่แผ่กระจายออกไปให้ทุกคนได้สัมผัส
เช่นเดียวกับในบทละครตอนที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระนางยโสธราในตอนที่ ๔๑ ว่า “ถ้าข้ายอมให้ความเศร้าของเจ้าสองแม่ลูก แล้วคนอีกไม่รู้เท่าไหร่ในโลกนี้ที่ทนทุกข์เล่า”
ดังนั้นความรักของพุทธคือความรักที่มีให้ทุกคน การนำความรักไปทุ่มเทให้กับคนใดคนหนึ่งจะทำให้คนอื่นๆเสียโอกาส และนั่นหมายถึงเราเองก็เสียโอกาสในการสร้างสิ่งดีงามที่ยิ่งใหญ่ เพียงเพราะไปหลงยึดมั่นผูกพันไว้กับความสัมพันธ์ที่ลวงโลกที่สุด
ความเป็นคู่รักนั้นไม่เที่ยง มันเปลี่ยนแปลงแปรผันได้ทุกเวลา พบ พราก จาก ลา แล้วก็แสวงหาใหม่ ไม่เคยหยุด ไม่เคยจบสิ้น ไม่เคยมั่นคง เมื่อมีรักก็ย่อมมีทุกข์ การจะหนีทุกข์ในขณะที่หลงรัก หลงผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่นั้น เป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งแท้จริงแล้วความสัมพันธ์ในเชิงคู่รักนั้นไม่มีอยู่จริงในโลกนี้ มันเป็นเพียงสิ่งสมมุติที่คนสร้างขึ้นมาและหลงติดหลงยึดว่ามันดี ว่ามันเป็นสุข หลอกจิตตัวเองโดยสมบูรณ์ว่าได้เสพ ได้รัก ได้เป็นคู่กันแล้วจะเป็นสุข ทั้งที่จริงแล้วสุขเหล่านั้นมันไม่มีตัวตนอยู่จริงเลย มันเป็นเพียงมายาที่เราต่างสร้างขึ้นมาหลอกกันและกัน และหลงวนเวียนอยู่ในเขาวงกตเหล่านั้นกันมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว
– – – – – – – – – – – – – – –
11.8.2558
โสดก็ดี มีคู่ก็ทนเอา
หลายๆบทความที่ชี้ทุกข์ในการมีคู่ ชี้นำให้โสดนี่เหมาะกับคนที่ยังโสดเป็นหลักเลยนะ ให้รักษาความโสดไว้ก่อน อย่าเพิ่งรีบสละโสด
อ่านบทความไปพิจารณากันไป ถึงจะคบหาดูใจกันอยู่ ก็ดูกันไปก่อน ดูกันไปนานๆ อย่าเพิ่งรีบผูกมัดกันด้วยร่างกายและสมมุติโลกต่างๆเลย ถึงเวลาอยากออกจริงๆมันจะออกยาก เพราะติดไปแล้ว ผูกพันไปแล้ว
เวลาผ่านไปนานๆ เดี๋ยวกิเลสก็เริ่มออกลีลาเอง พอทั้งคู่ไม่ได้อย่างใจตนก็ตอนนั้นแหละ ก็ดูกันไป พิจารณากันไป
……..
ทีนี้คนมีคู่มาอ่าน ก็ไม่ใช่ว่าต้องสละคู่เลยนะ มันไม่ง่ายนะ ถึงจะทำได้แต่มันก็มีวิบากบาปติดมาด้วยเหมือนกัน เรียกว่าไม่คุ้ม ยกเว้นเช่นว่าขอเขาไปบวชตลอดชีวิตแล้วเขาอนุญาตอย่างเต็มใจ แต่ต้องบวชตลอดชีวิตจริงๆนะ แล้วชีวิตเขาจะต้องอยู่ได้ปกติโดยไม่มีเราด้วย …เห็นไหมว่ามันยาก มันมีเงื่อนไขยิบย่อยเยอะมาก
คนมีคู่นี่เขามีหนี้กรรมที่ต้องชดใช้กัน เป็นคู่เวรคู่กรรม ก็ทนๆใช้กรรมกันไป วันหนึ่งเราทำดีมากพอ เขาก็ปล่อยเราหลุดจากความเป็นคู่เอง ถ้าร้ายๆก็เขาไปมีคนใหม่ ไม่ก็ตายไป ถ้าดีๆหน่อยก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน (เห็นไหมว่าสุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนกันอยู่ดี)
ส่วนใครที่ทนทุกข์อยู่ไม่ต้องไปโทษใครหรอก ทำมาเองทั้งนั้น กรรมตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่ชาติก่อนหรอก ก็ชาตินี้แหละ หลงไปแต่งงานกับเขาเอง ตอนเขามาผูกพันก็ไปหลงสุขหลงเสพกับเขาเอง มันก็ต้องใช้กรรมกันไป
จงเป็นโสดเป็นโสดเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นโสดเป็นโสดเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
เราไม่สามารถหวังให้ใครทำอะไรอย่างใจเราได้ทุกอย่าง เช่นเดียวกับที่เราไม่สามารถหวังว่าใครจงอย่ามาเบียดเบียนเราเลย แต่เราสามารถทำตัวเราไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่นได้ ดังนั้นการแผ่เมตตาคือการแผ่ธรรมะให้จิตที่โลภ โกรธ หลงของเรา ทำให้ตนเองไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นนั่นเอง
กิเลสมักจะนำพาให้เราไปเบียดเบียนผู้อื่น นำเสนอให้เขาอยากมีคู่ พูดแต่ข้อดีของการมีคู่ พูดแต่ข้อเสียของความโสด และด้วยการบำรุงบำเรอกิเลสให้เขาหลงในสุขลวง ให้เขาหลงมัวเมาในสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ไม่ว่าจะเป็น หน้าตา ฐานะ การงานมั่นคง มีชื่อเสียง คำหวาน คำสัญญา ความฝัน อุดมคติ ฯลฯ ซึ่งเราใช้สิ่งเหล่านี้ล่อลวงให้เขารับรัก เบียดเบียนเขาด้วยความผูกพัน ด้วยความยึดมั่นถือมั่น ด้วยการผูกภพผูกชาติ ก่อเวรก่อกรรมซึ่งกันและกัน
การพยายามไม่เบียดเบียนเช่นนี้อาจจะดูไม่มีความหมายสำหรับคนที่กำลังลุ่มหลงในความอยากมีคู่ แต่ถ้าลองพิจารณาดีๆ หากมีใครสักคนหนึ่งล่อลวงเราด้วยสิ่งยั่วกิเลสทั้งหลาย เช่น เขาหน้าตาดี มีฐานะดี มีการงานมั่นคง มีชื่อเสียง พูดแต่คำหวาน ผูกมัดเราด้วยคำสัญญา พาให้เราฝัน หลงในอุดมคติที่เขาสร้าง ในตอนแรกเราก็เป็นโสดอยู่ดีๆ มาเจอเขามายั่วกิเลสหนักเข้า โสดก็เริ่มจะกลายร่างเป็นสมรส คืออยากมีคู่ อยากคบหา อยากแต่งงาน
ทีนี้ชีวิตจริงมันไม่ได้จบเหมือนในละคร เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่เขามายั่วกิเลสของเรา มาพรากความโสดของเราไป เขาอยากเสพอะไร พอเขาได้เสพสมใจแล้วเขาจะทำอย่างไรต่อ เขาจะยังดีกับเราเหมือนเดิมไหม เขาจะทิ้งเราไปเมื่อไหร่ ในเมื่อเรามีความเสื่อมเป็นธรรมดา ความรักนั้นหมดอายุได้เป็นธรรมดา ซึ่งหมายถึงเราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เราเคยได้สุขได้เสพเป็นธรรมดาเช่นกัน
ไม่ว่าจะจบลงอย่างไรเราก็จะต้องถูกเบียดเบียนอยู่ดี การที่เขาหมดรัก หรือถูกเขาทิ้ง ก็เห็นการเบียดเบียนที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ถ้ารักกันไปจนแก่ รักกันจนตาย ก็จะเบียดเบียนกันด้วยการผูกภพผูกชาติ ผูกเวรผูกกรรม ที่จะต้องไปแก้กันในภายภาคหน้า แล้วมันจะดีหรือที่เรายังคิดจะไปเบียดเบียนผู้อื่นด้วยความหลงสุขของเรา ในเมื่อปลายทางนั้นมีแต่ทุกข์ ควรแล้วหรือที่เราจะปล่อยตัวปล่อยใจให้เบียดเบียนผู้อื่นเช่นนั้น
เราจึงควรสำรวมตนให้อยู่ในความโสด ป้องกันตนไม่ให้ไปเบียดเบียนใครด้วยความหลงสุขของเรา ไม่ให้เขาต้องลำบากเพราะเรา ไม่ให้ใครต้องมาทุกข์เพราะเรา
– – – – – – – – – – – – – – –
4.8.2558
ช่วงนี้พิมพ์แต่เรื่องโสดๆ
ช่วงนี้พิมพ์แต่เรื่องโสดๆ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ผมก็ทำตามหลักปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ละนะ
คือ…
งดเว้นจากการมีคู่ ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากการมีคู่ด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการโสดด้วย
ก็เป็นหลักปฏิบัติทั่วๆไปคล้ายๆกับศีล ๕ เช่น งดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย
….ไม่ฆ่าไม่เบียดเบียนสัตว์ ชักชวนคนอื่นให้ไม่ฆ่าไม่เบียดเบียนสัตว์ และชมคนที่ไม่ฆ่าไม่เบียดเบียนสัตว์ ก็จะพ้นทุกข์ประมาณนึง
แต่ถ้าเป็นโสดก็จะพ้นทุกข์อีกประมาณนึง คือรวมๆกันแล้วก็มีเรื่องไม่ต้องทุกข์เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อง
ดีนะ
ที่นี้การจะตั้งใจอยู่เป็นโสดนี่ก็ว่ายากแล้ว ยังต้องชักชวนคนอื่นให้เป็นโสดนี่ยากขึ้นไปอีก แถมยังต้องพูดถึงข้อดีของความโสดอีกยากสุดๆ
นี่ถ้ายังมีความอยากในเรื่องคู่อยู่นี่มันชักชวนคนอื่นไม่ไหวนะ มันจะชวนเขาไปมีคู่ท่าเดียวเลย ยิ่งพูดข้อดีของความโสดนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ใจมันจะไม่เอาเลย มันจะไม่ยอมโสด หาไปเถอะข้อดีของความโสด หาไม่เจอหรอก กิเลสบังตาหมด