อะไรเป็นตัวตัดสินว่าคนไหนที่เราจะแต่งงานด้วย?

August 3, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,275 views 0

จากกระทู้ในพันทิพ : อะไรกันครับที่เป็นตัวตัดสิน ว่าคนนี้แหละ เราจะแต่งงานด้วย (http://pantip.com/topic/33997358)

กิเลสล้วนๆเป็นตัวตัดสิน ถ้าได้สมกิเลสก็ตัดสินว่าใช่ ถ้าไม่ได้สมกิเลสก็ตัดสินว่าไม่ใช่

อยากได้ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกีย์สุข สนองกาม สนองอัตตา บ้าอบายมุข เรื่องกิเลสทั้งหมดก็วนๆอยู่กับเรื่องพวกนี้ละนะ

ก็ว่ากันไป ตามแต่กิเลสจะนำพา….

 

อะไรเป็นสาเหตุให้คนเคยรัก หมดรัก?

August 3, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,467 views 0

(จากกระทู้ : อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเคยรักกันมากๆ จู่ๆก็หมดรักกันได้คะ http://pantip.com/topic/33996161)

เพราะได้เสพสิ่งเดิมจนเบื่อ จึงไม่จำเป็นต้องดูแลเอาใจกันอีกต่อไป เมื่อไม่ต้องการเสพสิ่งเดิมแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนลงแรงทำอะไร เพราะไม่อยากได้สิ่งเหล่านั้นอีกต่อไป ให้ฟรีก็ยังไม่เอา อยากไปเสพสิ่งใหม่

เพราะรักนั้นลวงตั้งแต่แรก ลวงให้เห็นว่าเป็นความรัก แท้จริงแล้วการดูแลเอาใจที่เคยเป็นมานั้นเป็นเพียงวิถีทางที่จะทำให้ได้เสพ สุขตามที่ต้องการ

คนมีคู่รักระวังไว้เถอะ การที่เขาดูแลเอาใจ เขาแค่อยากได้อยากเสพอะไรเรารึเปล่า เรากำลังเป็นเครื่องบำเรอกาม สนองกิเลสเขาอยู่รึเปล่า ลองสังเกตุกันดีๆ

โสดเพราะไม่มีใครเอา?

August 3, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,592 views 0

จากกระทู้ : ทำไมผู้ชายหลายคนถึงไม่เชื่อว่าผู้หญิง(หลายๆคน)เลือกที่จะโสด ไม่ใช่ไม่มีใครเอา (http://pantip.com/topic/34000287)

จริงๆแล้วไม่ว่าเขาจะว่าอย่างไร ถ้าเราเลือกโสดด้วยใจที่เป็นสุขจริงๆ มันก็จะเป็นจริงไปอย่างนั้น

ถึงเขาจะว่าเราหน้าตาไม่ดี นิสัยไม่ดี ไม่มีใครเอา หรือหาปัจจัยใดๆที่พยายามจะเข้าใจเหตุของความโสด มันก็เป็นไปตามความเข้าใจของเขา แต่ก็อาจจะไม่ใช่ความจริงของเราอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปสนใจเสียงของใครต่อใครว่าเขาจะว่าอย่างไร

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

คนที่โสดเพราะไม่มีใครเอาก็มีอยู่จริง คนที่โสดเพราะเลือกคนที่ถูกใจไม่ได้ก็มีอยู่จริง คนที่โสดเพราะไม่รู้จะมีคู่ไปเพื่อประโยชน์อะไรก็มีอยู่จริง

แต่กระนั้นความโสดก็ใช่ว่าจะเป็นสถานะที่รักษากันได้ง่ายๆ

ทุกคนมีความโสดเป็นสมบัติแต่อาจจะถูกพรากมันไปเมื่อไหร่ก็ได้ วิบากกรรมจะสร้างอวตารมารเข้ามาในคราบของเทวดา เป็นชายหรือหญิงในฝัน แต่ถึงจะไม่ชวนฝันแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้กระหายใคร่อยากจะมีคู่ และวันนั้นอาจจะเป็นวันที่คนโสดได้พ่ายแพ้ต่อกิเลสอีกครั้งหนึ่ง จากในหลายๆการพ่ายแพ้ที่ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน

คนที่มุ่งมาโสดนั้นคือคนที่พยายามเข้าสู่ความเห็นที่ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” พอตนเลือกที่จะพึ่งตนมันก็เลยหันหัวไปในทิศทางแห่งการพ้นทุกข์

ส่วนคนที่เลือกที่จะไม่พึ่งตน เลือกใช้คนอื่นมาบำเรอกาม ก็หันหัวออกจากเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ ไปสู่ความหลง อย่างน้อยๆก็หลงว่าการมีคู่เป็นสุข

ทั้งๆที่จริงแล้วการมีคู่นี้เองเป็นเรื่องที่ไร้สาระเรื่องหนึ่งในชีวิต ซึ่งจะมีก็ได้ ไม่มีก็ไม่ตาย ไม่ใช่ปัจจัย ๔ ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าไม่มีก็ไม่ตาย ก็เลยไม่รู้จะเอามาเป็นสาระสำคัญในชีวิตทำไม

คนที่จะหาเหตุผลดีๆในการมีคู่เขาก็ทำเพื่อที่จะให้ได้เสพเท่านั้นแหละ ให้สิ่งที่เขาเสพเป็นสิ่งที่ดูดี มีคุณค่า คนให้การยอมรับ มันก็เป็นไปตามวิถีแห่งโลกีย์ทั่วไป เป็นเรื่องธรรมดา

สุขกว่าโสด ในโลกนี้ไม่มี

August 1, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 3,711 views 0

สุขกว่าโสด ในโลกนี้ไม่มี

สุขกว่าโสด ในโลกนี้ไม่มี…

ความจริงข้อหนึ่งที่เป็นอมตะไปตลอดกาลนั่นก็คือ ความเป็นโสดนั้นคือสถานะที่สงบสุขที่สุด แต่ความจริงนี้กลับถูกบดบังไปด้วยความหลงผิด จนทำให้ความจริงเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ถึงกระนั้นความจริงก็ยังเป็นความจริง ความสุขที่สุดก็คือสุขที่สุดและมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

หากจะหาข้อดีที่สุดของความโสดที่ว่าสุขนั้น ก็คงจะต้องยกเรื่องของความไม่มีทุกข์ขึ้นมาว่ากัน เพราะความโสดนั้นไม่ต้องประสบทุกข์ใดๆ จากการมีคู่เลย ผู้ที่ล้างความอยากมีคู่ ล้างความหลงในสุขลวงได้จริงจะเห็นแต่ความทุกข์ในการมีคู่ นั่นหมายถึงการจะพ้นทุกข์เหล่านั้น ก็คือความเป็นโสด นั่นหมายความว่าการไม่ต้องทุกข์จากการมีคู่ก็สุขมากเกินพอแล้ว

แต่ความสุขจากความโสดกลับไม่ใช่สิ่งที่มีในโลกนี้ แต่เป็นเรื่องของโลกหน้า…. โลกนี้คืออะไร? โลกนี้ก็คือโลกที่ยังมีกิเลส ยังหลงสุข หลงติดหลงยึดในรสสุขของการมีคู่ ผู้ที่มีตัณหาและอุปาทานในการมีคู่ จะไม่สามารถหาความสุขของความโสดได้เลย เพราะเขาหลงว่าการมีคู่เป็นสุข เมื่ออยากได้อยากเสพการมีคู่แล้วไม่สมใจอยากก็ต้องเป็นทุกข์ ดังนั้นความโสดจึงเป็นทุกข์สำหรับชาวโลกีย์ เป็นเหมือนคำสาป เป็นเหมือนคุกเป็นสิ่งที่ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะความอยาก

โลกหน้าคืออะไร? โลกหน้าก็คือโลกที่พ้นไปจากกิเลส พ้นจากความอยาก พ้นจากความหลงติดหลงยึดในสุขลวง เกิดดวงตาเห็นธรรมว่าแท้จริงแล้วการมีคู่มีแต่ทุกข์ ทุกข์ และทุกข์ ดังนั้นความสุขในความโสดจึงมีเฉพาะผู้ที่เข้าถึงโลกหน้า คือโลกุตระ ไม่มีความเห็นเหมือนกับคนทั่วไป แตกต่างจากผู้คนทั่วไป

ถ้ามองในมุมโลกียะ ความสุขกว่าความโสดย่อมมีมากมาย ซึ่งหลายคนสามารถพิจารณาข้อเสียของความโสด ข้อดีของการมีคู่เพื่อเข้าถึงสุขลวงได้อย่างมีความสุขจริงๆ เกิดรสสุขจริงๆ แต่สุขนั้นไม่ใช่ของจริง มันเสื่อมสลายและเลือนหายได้ จึงเป็นความหลงในสุขลวงอย่างแท้จริง

ถ้ามองในมุมโลกุตระ ความสุขกว่าความโสดยอมไม่มี ซึ่งเราไม่สามารถพิจารณาถึงข้อดีของการที่เราจะไปมีคู่ได้เลย นึกไปก็เห็นแต่ข้อเสียมากมาย และเห็นแต่ข้อดีของความเป็นโสด เพราะเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ยั่งยืน มีความเต็มในตนเอง ไม่ขาดไม่พร่อง ไม่ต้องเรียกร้องโหยหา

หากเรายังไม่สามารถชำระล้างความอยากในการมีคู่ได้เราก็จะไม่เห็นความสุข ไม่เห็นคุณค่าใดๆในความโสด จะเห็นแต่ประโยชน์ของการมีคู่

หากเราชำระความอยากในการมีคู่ได้ เราก็จะไม่เห็นว่าสุขลวงที่เคยมีเป็นความสุขอีกต่อไป เราจะเห็นความจริงตามความเป็นจริง เห็นทุกข์แท้ๆที่เกิดขึ้นจากความผูกพัน เป็นบ่วงของกันและกัน และจะเป็นโสดด้วยจิตใจที่ยินดีเพราะรู้แจ้งในโทษชั่วของกิเลสเหล่านั้น

ตามความเห็นทางโลกเขาก็จะสรรหาเหตุผลดีๆมากมายในการมีคู่ หาข้อยกเว้น หาข้ออ้างที่ดูดี เพื่อที่จะให้การมีคู่นั้นดูเป็นที่น่ายอมรับ เป็นที่น่าชื่นชม เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรี เป็นคุณค่า เป็นตัวตน

ตามความเห็นทางธรรม ก็จะไม่พยายามแสวงหาเหตุผลใดๆมาค้านแย้งคุณค่าของความโสด เพราะพระพุทธเจ้าก็ตรัสเกี่ยวกับโทษของการมีคู่ไว้มากมาย ดังนั้นผู้ที่ใฝ่ในธรรมจึงไม่คิดจะต่อต้านความเห็นที่ว่าความโสดคือสถานะที่ดีที่สุดสู่การพ้นทุกข์

…. จากที่ยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่า มุมมองของคนเรานั้นต่างกัน แต่ความแตกต่างนั้นมีเหตุ นั่นก็คือกิเลสเป็นเหตุของความแตกต่าง ผู้มีกิเลสจะมีความแตกต่างกันไปตามความหลงติดหลงยึดของแต่ละคน แต่ผู้ที่ล้างกิเลสในเรื่องคู่ได้นั้นจะมีความเห็นตรงกัน เป็นไปในทางเดียวกัน ไม่ขัดกัน นั่นเพราะการหลุดพ้นจากกิเลสนั้นมีรสเดียวกัน ใครที่สามารถปฏิบัติจนถึงผลได้ก็จะรับรู้เหมือนกัน

ดังนั้น คำว่า “สุขกว่าโสด ในโลกนี้ไม่มี” จึงเป็นคำกำกวมที่ตีความได้ตามความเห็น ถ้ายังมีความอยากก็จะเข้าใจในแนวทางที่ว่า “ ความสุขกว่าความโสดมันไม่มีจริงในโลก” แต่ถ้าไม่มีความอยากก็จะเข้าใจในแนวทางที่ว่า “ ในโลกนี้ไม่มีความสุขใดเท่าความโสดแล้ว

แต่ความจริงนั้นความโสดคือสถานะที่ดีที่สุดในการปฏิบัติสู่การพ้นทุกข์ เราจะควรพิจารณาคุณค่าของความโสดเพื่อเข้าถึงประโยชน์นั้น และควรพิจารณาโทษ ภัย ผลเสียของการมีคู่เพื่อออกจากความหลงเสพหลงสุขนั้น

– – – – – – – – – – – – – – –

30.7.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)