ไม่ลดกิเลส จะไม่ทันพวกทำดีเอาหน้า พวกสร้างภาพ

June 11, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 442 views 0

วันนี้อาจารย์หมอเขียวพูดถึง คนที่ผิดศีลจะมีวิบาก(ผล) ให้ได้ข้อมูลผิด เช่น เห็นพวกทำดีเอาหน้าแล้วดูไม่ออก คือไม่เห็นความชั่วที่ซุกแอบซ่อนในการทำดีของเขา

ผมก็เคยพลาดมา แต่เราตั้งใจปฏิบัติศีล จึงได้เห็นข้อมูลจริง ว่าเขาผิดศีล ไม่ได้ขยันอย่างจริงใจ คือทำดีสร้างภาพ หวังลาภสักการะ ฯลฯ ซุกซ่อนกิเลสภายใน

ทีนี้ใช่ว่าเราออกมาได้ แล้วเราก็จะเฉย ๆ เราก็ช่วยคนอื่นโดยการเผยแพร่ข้อมูล ลักษณะของคนพาล และรูปรอยของคนผิดศีลนั่นแหละ ก็คงจะไม่ได้ประจานกันตรง ๆ เพราะชนกับคนพาลจะมีแต่เสีย แล้วเจตนาเราไม่ได้หวังจะช่วยคนพาล แต่จะช่วยคนดีที่ยังไม่รู้ทันคนชั่ว

เชื่อไหมว่า คนที่ปิดบังหรือไม่เปิดเผยความจริง ส่วนใหญ่ที่เข้ามาในชีวิต ไม่นานเขาจะหลุดความจริงออกมา ผมเคยตั้งจิตว่าขอให้ได้รู้ว่าใครเป็นใคร เท่านั้นแหละ พาลเป็นพาล บัณฑิตเป็นบัณฑิตเลย

พาลคือไม่ได้จริงอย่างที่พูด พูดอย่างทำอีกอย่าง พูดเกินความจริงที่ตนมี เช่นบรรลุขั้นนั้นขั้นนี้ แต่ชีวิตจริงยังไปจีบหญิงอยู่เลย แบบนี้เรียกพวกเน่าใน ทุศีล สร้างภาพว่าสวยงาม แต่ข้างในไม่ได้มีจริง บางทีเขาก็พูดเอาโก้ ๆ หลอกคน เพราะหลงโลกธรรม

ธรรมะนั้นเป็นของสูง คือมีลาภสักการะมาก มีสรรเสริญมาก คนชั่วเขาก็จะเข้ามาเอาประโยชน์ตรงนี้เหมือนกัน คือเข้ามาแล้วทำให้ดูเหมือนขยันทำดี ขยันเอาธรรม ขยันสนทนาธรรม บางทีเขาซ่อนกิเลสเขาไว้ แต่ไม่แสดงออก แล้วก็แอบเสพไป สร้างภาพไป

ด้วยความที่ผมทำดีมามาก เลยได้ข้อมูลค่อนข้างเยอะ ที่จะช่วยไม่ให้หลงไปคบคนผิดหรือคนพาลนาน พอเราได้ข้อมูลว่าเขาผิดศีล ไม่จริงอย่างที่พูด เราก็ไม่คบ มันก็ง่าย ๆ แค่นี้

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสื่อสารให้คนอื่นได้รู้อย่างเรา แม้จะพูดไปเต็มปาก ก็ใช่ว่าเขาจะเชื่อได้ เพราะถ้าเขาทำดีมาไม่มากพอ ปฏิบัติศีลเจริญในธรรมได้ไม่มากพอ เขาจะไม่เห็นความชั่วที่แอบไว้ในความดีที่คนชั่วนำเสนอ

ก็สรุปกันง่าย ๆ ว่าโดนเขาสร้างภาพลวงให้หลงไว้นั่นแหละ สุดท้ายแม้เราพูดไป แล้วเขาไปศรัทธาคนที่ขยันทำดีแต่ไม่จริงใจมากกว่าเรา เขาก็จะเพ่งโทษเรา แทนที่จะช่วยเขา ก็กลายเป็นว่าเขาจะกลับมาเพ่งโทษถือสาเราอีก

ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยเสี่ยงแลกนักหรอก ถ้าดู ๆ แล้วคนเขาไม่ได้ศรัทธาเรามากพอ มันจะได้ไม่คุ้มเสีย บางคนเขาก็ทำเหมือนศรัทธาเรา แต่พอไปได้ยินคนนินทาเรื่องเรา กลับไม่มาถามเราสักคำว่า “เรื่องจริง ๆ” มันเป็นอย่างไร เราก็รู้เราว่าเขาเชื่อทางนั้น เราก็ไม่พูด เพราะพูดไปมันก็จะไปสู้กับสิ่งที่เขาศรัทธามันจะพังเปล่า ๆ

บางทีถ้าพยายามจะสื่อเต็มที่แล้วเขาไม่เข้าใจ มันก็ต้องวาง ให้ทุกข์ได้สอนเขา เราพ้นจากคนพาลแล้วเราจะทุกข์อะไร เราไม่คบ ไม่สื่อสารกับคนพาล ไม่อนุเคราะห์คนพาลให้มันลำบากชีวิตหรอก

ยุคสมัยที่มีความเร่งสูง

June 9, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 455 views 0

นึกถึงสมัยก่อนที่กว่าจะได้เจอพระพุทธเจ้า ต้องเดินทางกันนาน หลายวันหลายเดือน จึงจะได้เจอได้ฟังธรรม

มายุคนี้เรียกว่าง่ายและทันใจมาก อยากฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ก็แค่ต่ออินเตอร์เน็ต ดูรายการสดก็ได้ ดูคลิปย้อนหลังก็ได้ อยากจะฟังกี่รอบก็ไม่มีปัญหา เรียกว่า เข้าถึงธรรมได้ง่ายกว่ายุค 2500 ปีก่อนมาก ๆ

หรือแม้แต่ยุคโควิด19 ที่ไปทำกิจกรรมกลุ่มไม่ได้ ก็ยังมี app ประชุม ซึ่งผมได้ลองแล้ว รู้สึกว่ามันเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ได้ดีมาก ระยะทางแทบจะไม่เป็นปัญหาเลย แต่ถ้าเน็ตมีปัญหาก็ตัวใครตัวมัน

แต่ในความสะดวกนี้ก็มีความเร่ง คือทุกอย่างมันไวไปหมด คนที่จะทำดี ศึกษาสิ่งที่ดีก็จะทำได้ไว ส่วนคนที่เขาทำชั่ว ชั่วเหล่านั้นมันก็แพร่ได้ไว คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว มีให้เห็นกันทุกเสี้ยววินาทีในอินเตอร์เน็ต

ชั่ว คืออะไร? ชั่วคือ คิด พูด ทำ แล้วส่งเสริมกิเลส เพิ่มความโลภ โกรธ หลง ตัวเองก็กิเลสเพิ่ม คนอื่นก็กิเลสเพิ่ม จากที่ดูผ่าน ๆ แล้ว ประเมินว่าความชั่วที่เผยแพร่ไปจะไวและกว้างกว่าความดีอยู่หลายขุม

ในขณะที่เรากำลังใช้ชีวิตเพลิน ๆ บนโลกที่หมุนด้วยความเร่ง อาจจะทำให้เราเสื่อมและไหลลงไปสู่ความทุกข์โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้

พอผมตระหนักว่า ยุคนี้มันไวจนน่ากลัว ผมก็เริ่มรู้สึกว่าประมาทไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่ว่าอะไร ๆ จะคงอยู่ตลอดกาล ความเร่งหมายถึงมันจะจบเร็วขึ้น ใช่ว่าครูบาอาจารย์จะอยู่กับเราตลอดไป ในยุคสมัยที่มีความเร่งเช่นนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะมันเปลี่ยนแปลงไวจนจับไม่ทัน

ชีวิตเราก็เช่นเดียวกัน โลกมันเร่งขนาดนี้ เราจะอยู่ได้นานขนาดนั้นเชียวหรือ สิ่งที่คิดไว้ อาจจะโดนรวบให้เกิดภายในไม่กี่ปีก็ได้

ซึ่งก็มีเหตุการณ์ที่ผมเคยประเมินว่ามันจะเกิด ตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะต้องรอสัก 10 ปี แต่มันดันเกิดภายใน 2-3 ปี เรียกว่าหาร 3 ได้เลย มันเร็วกว่าที่ประเมินไว้มาก แสดงว่าวิบากกรรมของโลกนี้มันเร่ง โลกมันร้อน มันไม่ได้หมุนช้าเหมือนแต่ก่อน มันหมุนไว และไวจนน่ากลัว

ตอนนี้ก็พยายามขยันเรียนให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาพรากความปกติในชีวิตไปอีก แค่โควิดก็ไม่ธรรมดาแล้ว สั่นไปทั้งโลก เขาก็ประเมินว่ายังมีปัญหาใหญ่ ๆ อีกเยอะที่จะตามมา อันนี้แค่สิ่งที่เขามีข้อมูลนะ มันยังมีสิ่งที่ไม่เคยเปิดเผยตัวซ่อนอยู่อีกเยอะ

ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน

June 8, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 467 views 0

ระหว่างเดินทางวันนี้ ก็ได้มองไปรถที่กำลังขับผ่านไปอย่างช้า ๆ เป็นรถขนหมู

หมูในรถโต ๆ กันแล้ว ก็รู้ ๆ กันว่าปลายทางจะไปอยู่ที่ไหน ก็ไปเข้าปากเข้าท้องคนที่เขาอยากกินนั่นแหละ แต่กระบวนการมันก็โหดร้ายเหลือเกิน คือมันต้องถูกฆ่า ไม่งั้นคนก็ไม่ยอมซื้อกิน ถ้าฆ่ามาขายคนจ่ายเงิน ถ้าไม่ฆ่าไปขายไม่ได้เงิน

สรุปว่าหมูวัยรุ่นเหล่านั้นกำลังจะเดินทางไปสู่ความตายอย่างแน่นอน นั่นหมายถึง นี่เป็นการได้พบกันครั้งแรกของผมกับหมูกลุ่มนั้น และก็เป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไปในไม่กี่วินาที ผมก็ต้องเดินทางของผมต่อไป หมูก็ต้องเดินไปตามกรรมที่ทำมาต่อไป แน่นอนว่าเราไปคนละทางกัน

การทำบาป ทำชั่ว ทำผิดศีล ย่อมก่อกรรมที่ทำให้เกิดเป็นเดรัจฉาน ก็เป็นการวนเวียนกันไประหว่างคนฆ่าและคนกิน เป็นการรักษาสมดุลของกรรม คือทำแล้วต้องรับ ทำแล้วต้องใช้ ไม่มีวันหมดไปจนกว่าจะใช้หนี้กรรมหมด

มีทางหนีทางเดียวคือทำตนให้หมดกิเลสแล้วปรินิพพานหนีซะ นอกนั้นไม่มีทางพ้นกรรม ถ้ายังเกิดอยู่ก็ยังต้องทนทุกข์ แล้วถ้าไปเกิดเป็นสัตว์เหล่านี้ก็ยิ่งทุกข์ไปกันใหญ่

ก็เห็นใจทั้งหมู เห็นใจทั้งคนฆ่า เห็นใจทั้งคนกิน ก็กลุ่มเดียวกันนั่นแหละ ก้อนเดียวกัน กงเกวียนกงกรรม เกี่ยวเนื่องกันด้วยบาป หมุนไปด้วยกัน ทุกข์ไปด้วยกัน เพียงแค่สลับตำแหน่งกัน ล้อหมุนไป จุดหนึ่งอยู่บน จุดหนึ่งอยู่ล่าง หมุนไปอีก จุดหนึ่งอยู่ล่าง จุดหนึ่งอยู่บน สลับกันไปไม่จบไม่สิ้นด้วยเหตุแห่งความเกี่ยวเนื่องอาศัยกันและกัน

ความประหยัดเรียบง่ายของชีวิตมังสวิรัติ

June 6, 2020 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 566 views 0

วันก่อนไปซื้อมะเขือเปราะมาทำแกง กิโลกรัมละ 20 บาท กก. นึงแบ่งกินได้ประมาณ 2 วันกว่า ๆ

มาคิดถึงเนื้อสัตว์ ราคาเนื้อสัตว์ในยุคปัจจุบันโดยเฉลี่ยน่าจะไม่เคยลงไปแตะถึง 20 บาท/กก. นี่เรากินผืชกินผัก เราก็ประหยัดได้มากกว่า เรียบง่ายกว่าด้วย เพราะผักนี่ไม่ต้องแช่ตู้เย็นก็อยู่ได้ ส่วนเนื้อสัตว์นี่ถ้าไม่มีตู้เย็น แล้วไม่เอาไปแตกแดด ก็เน่ากันเลยล่ะ

ในเชิงบริหารชีวิต การกินผักมีประสิทธิภาพกว่าอย่างชัดเจน ทั้งประหยัด เรียบง่าย และแข็งแรง ผมไปตรวจเลือดเมื่อต้นปี หลังจากไม่กินเนื้อสัตว์มา 7 ปีกว่า ผลเป็นที่น่าพอใจมาก หมอที่แจ้งผลแปลกใจว่ามันดีผิดจากทั่ว ๆ ไปในคนรุ่นนี้

ในเชิงกิเลส ผักนั้นมีกามน้อยกว่าเนื้อสัตว์มาก ทั้งสัมผัส และกลิ่น ส่วนรสเขาก็ปรุงจากพืชจากเกลือนั่นแหละ เนื้อสัตว์นี่จืดมาก ไม่เหมือนผักหลายชนิดที่เอามาลวกแล้วหวานขึ้นอย่างชัดเจน

คนส่วนมากเขาก็ปรุงเนื้อสัตว์โดยอาศัยพืชผัก เกลือนี่แหละ มันเลยกินได้ขึ้นมา เป็นรสอร่อยขึ้นมา คนไม่กินเนื้อสัตว์ ขาดเนื้อสัตว์ได้ ไม่ตาย แต่คนขาดพืชผักนี่น่าจะอายุไม่ยืน ไม่เจริญอาหาร อาจจะขาดใจตายได้

แต่ก็มีส่วนกลับของโลก ที่คนกลับไปปรุงพืชผักให้เป็นเนื้อสัตว์ นี่คือมายาของกิเลส ที่จะปั้นปรุงแต่งให้เป็นรสรูปสัมผสที่คนหลงพอใจ ผลออกมาคือ ได้เนื้อเทียมที่ราคาแพงกว่าเนื้อสัตว์มาก ทั้งที่จริง ๆ แล้วพืชผักส่วนใหญ่ราคาไม่แพง แต่พอเอาไปปรุงปั้นแต่งเป็นเนื้อเทียม ราคากลับแพงจนน่าตกใจ

การหากินกับกิเลสคนนั้นบาปมาก ทั้งที่เราสามารถสร้างการรับรู้ในการไม่กินเนื้อสัตว์ให้ประหยัดเรียบง่ายได้ แต่ด้วยอำนาจของกิเลส และแนวคิดในเชิงทุนนิยม เขาก็จะทำตรงกันข้าม คือผลิตมาให้คนอยากเสพ แล้วเอาเงินมาก ๆ เยอะ ๆ ขายแพง ๆ วางตำแหน่งให้ดูสูง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันก็คือซากพืชที่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม ไร้ความสด ลดคุณค่า เพิ่มตัณหา พายากจน

การกินผักท้องถิ่นตามฤดูกาลกลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้พบเห็นเท่าไรนักในกลุ่มสนทนาเกี่ยวกับการเลิกกินเนื้อสัตว์ เพราะมันธรรมดาเกินไป ไม่สมใจกิเลส เขาต้องเอาเมนูโก้ ๆ หรู ๆ มาโชว์กัน ให้เกิดความอยาก

จริง ๆ คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยปัญญานี่เขาไม่ต้องเอาของกินอร่อย ๆ หน้าตาดี ๆ มาล่อหรอก ก็กินพืชผัก ต้มผัดแกงทอดไปเป็นธรรมดานี่แหละ ความธรรมดาคือความเรียบง่าย เป็นสากล ชาวบ้านก็ทำตามได้ จะรวยจะจนก็ทำตามได้หมด แต่ถ้าไปกินแพง ๆ ชาวบ้านเขาตามไม่ได้ มันก็ไม่ใช่วิถีชีวิตปกติ จึงเป็นได้แค่วิถีชีวิตของกลุ่มคนมีอันจะกินกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง