Dinh (Author's Website)
ธรรมะพารวย ซวยทั้งนั้น
การแสดงธรรม ให้ความเห็น บอกความรู้ไปในทิศทางที่เอื้อต่อการมักมากอยากใหญ่อยากโตจนกระทั่งอยากรวย คือการชี้ทางไปในทิศที่ห่างไกลจากการพ้นทุกข์
การแต่งงานคือเข้าสู่สงคราม
กรณีศึกษาจากกระทู้ในพันทิพ “ใครเคยมีประสบการณ์แย่ ๆ กับงานแต่งของตัวเองบ้างคะ มาแชร์กันหน่อย” ( http://pantip.com/topic/34427805 )
….เพื่อการเรียนรู้ที่มากขึ้น เราควรศึกษาเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของท่านอื่นที่เจอปัญหาในการแต่งงานตั้งแต่กระบวนการคบหา จัดงาน สร้างครอบครัว จนกระทั่งวัยชรา เพื่อให้เห็นปัญหาและความทุกข์ที่เกิดขึ้นอย่างแจ่มแจ้ง
การแต่งงาน ก็คือการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ นอกจากจะรบกับคู่แล้ว ยังต้องรบกับพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรสหายของคู่ด้วย ซ้ำร้ายกว่านั้นอาจจะเจอทั้งศึกนอกศึกใน
….ก็เรียนรู้กันไป
หาก ว่า โสด ไม่ ไหว…
ผมพิมพ์บทความเกี่ยวกับโทษของการมีคู่ คุณของความโสดไว้หลากหลาย ซึ่งเนื้อหาส่วนมากนั้นก็ค่อนข้างหนัก
คือจะไม่ยอมให้เบี้ยวไปจากธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสเลย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้บางคนรู้สึกอึดอัด กดดัน ทรมานกับการศึกษาบทความที่ได้เผยแผร่ออกไป
ถึงแม้สิ่งนั้นจะดี แต่กิเลสข้างในมันไม่ยอม มันเถียง มันแย้ง มันจะเอาให้ได้ ถึงขนาดพยายามตีความให้ตนเข้าใจว่าการมีคู่นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ก็มี
จริงๆมันก็ทำได้ ผมก็ไม่ได้ห้าม ถึงแม้จะเป็นคนที่ติดตามศึกษากันมานาน ถึงวันหนึ่งจะเปลี่ยนใจไปมีคู่ ผมก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไร
เพราะเข้าใจว่ามันยาก การประพฤติตนเป็นโสด นี่มันยากกว่าถือศีล ๕ เยอะเลยนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คิดจะทำก็ทำได้ทันที โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาวที่มีองค์ประกอบพร้อมในการมีคู่ หน้าตาก็ดี เงินก็มี อนาคตก็สดใส การจะปฏิบัติตนให้เป็นโสดนี่มันสวนกระแสธรรมชาติมาก
ซึ่งถ้าพลังธรรมะในตนมันสู้พลังกิเลสไม่ได้ ก็จะทรมานมาก เหมือนเด็กที่เกาะก้อนหินท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว หากวันใดวันหนึ่งจะปล่อยมือแล้วลอยไปตามน้ำก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ก็คงต้องปล่อยให้ไปลองพิสูจน์กันดูว่าการปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกิเลสนั้นสุขจริงไหม ธรรมะดีจริงไหม ใช้ชีวิตพิสูจน์กันไปเลย เล่นจริง เจ็บจริงกันไป ใช้กรรมที่เกิดจากกิเลสกันอีกชาติ
เพราะถ้าหลุดไปนี่กลับมาโสดไม่ได้ง่ายๆหรอก ถ้าฟ้าเขาเปิดทางให้มาศึกษาธรรมะที่พาให้โสดอย่างเป็นสุขแล้วเวียนกลับไปมีคู่ แสดงว่าพลังกิเลสเรามากกว่าพลังของธรรมะ ก็ต้องไปศึกษาความทุกข์ที่เกิดจากกิเลสกันอีก นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถึงจะเกิดปัญญาเข้าใจก็ใช่ว่าจะหลุดกลับมาได้ง่ายๆ คู่ครองเขาอาจจะไม่ปล่อย ดีไม่ดีมีลูกอีกก็เรียกได้ว่ายาวไปเลย
พอมีคู่ครองมีครอบครัวโอกาสศึกษาธรรมะมันมีไม่เท่าคนโสดหรอก ภาระมันมาก วิบากมันเยอะ ปัญหามันก็แยะ ถ้าสามารถดำรงตนให้อยู่ในศีล ๕ ได้มันก็ทุกข์น้อยหน่อย แต่โดยมากก็จะมีโอกาสตกต่ำได้มากกว่า
ถ้าใครตกไปก็ค่อยๆปีนกลับมาใหม่แล้วกัน นรกมันร้อนอยู่นานไม่ไหวหรอก แต่อย่าลงไปจะดีกว่า ใครที่ยังโสดอยู่ก็พยายามประคองตนกันไปก่อน หาเพื่อนโสดช่วยกันเถียงกิเลสก็ได้ ถ้าไม่ไหวก็ลองมาถามไถ่กัน
….แต่ก็นะ นี่ก็ใกล้กลียุคแล้ว ใครเลี่ยงได้ก็เลี่ยง นี่มันยุคที่มีคนเลวมากกว่าคนดี ยากนักที่จะเจอคนดีแท้ เช่นเดียวกับเรื่องลูก ยากนักที่คนดีจะมาเกิด
มารมันก็มายั่วประจำนั่นแหละ ขาประจำมาทุกชาติ มายั่วให้เรารักให้เราหลง ปรนเปรอบำเรอ ดูแลกันเต็มที่ ลด แลก แจก แถมสุดๆ มีมาให้เลือกทุกโปรโมชั่น เพื่อขายสุขลวงแล้วฉุดให้เราลงนรกเหมือนเดิมนั่นแหละ
….เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว โสดกันอีกสักชาติจะเป็นอะไรไป
– – – – – – – – – – – – – – –
9.11.2558
ภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ (การขอแต่งงาน)
จากข่าวที่มีการขอแต่งงานที่มีคนดูมากกว่าล้านครั้ง : คลิปขอแต่งงานที่น่ารักมาก ขนมาทั้งญาติทั้งเพื่อน เซอร์ไพรส์สุดๆ
สมัยนี้เขาไม่ขอแต่งงานกันธรรมดาแล้ว มันต้องมีบันเทิง มีบท มีละคร เรียกง่ายๆว่ามีอบายมุขเข้ามาเป็นองค์ประกอบ
พร้อมคำสัญญาที่มีไว้เพื่อล่อหลอกให้ได้เสพอีกฝ่าย แน่นอนว่าตอนที่เขาใช้คำเหล่านั้นเขาก็อาจจะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ความจริงคือสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่จริง
หลายคนดูไปก็ซึ้งไป …แต่เดี๋ยวก่อน ทุกเสี้ยววินาทีที่คุณซึ้ง คุณสุขจากการเสพเรื่องราวเช่นนี้ คุณก็ได้สะสมกิเลสไปแล้วเท่านั้น
ใครประมาทก็จะบอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย แต่ถ้าคนเห็นโทษเห็นภัยของวัฏสงสารแล้วจะขำไม่ค่อยออกถ้าตนเองยังเหลือความเห็นผิดเหล่านั้นอยู่
แม้เผลอไปยินดีเพียงเสี้ยวเดียวในจิตใจ นั่นคือยังมีอุปาทานอยู่ ก็ต้องกลับมาตรวจกันยกใหญ่ว่ายังเหลือความเห็นผิดในอะไร สิ่งใดที่ทำให้เกิดรสสุขลวงขึ้นเช่นนี้
เกิดสุขจากเสพก็เป็นกิเลสแล้ว เพิ่มกิเลส สะสมกิเลสใครก็ทำได้ แต่ล้างกิเลสนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ก็ลองดูกันเองแล้วจะรู้ว่าการจะออกจากสิ่งที่ตัวเองหลงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่มีความรู้ที่พาล้างกิเลสได้จริง ถึงจะมีความรู้ก็ใช่ว่าจะล้างความเห็นผิดกันได้ง่ายๆ
คนที่บอกว่าตนเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องคู่ ถ้ายังดูเรื่องราวเหล่านี้แล้วยังเกิดสุข ยังฝันตามเขาอยู่ ให้ทบทวนตัวเองใหม่ได้เลย อย่าประมาท เพราะกิเลสมันแอบโตแล้วมันเล่นเรากลับทีเดียวหงาย
แค่ล้างกิเลสยังต้องใช้เวลาหลายชาติ นี่ยังมายินดีในการเพิ่มกิเลสกันอีก ก็วนอยู่กับสุขลวงกันต่อไปละนะ
. . . . . . . . . . . .
คลิปนี้มีคนเห็นกว่า 2 ล้าน(ตอนนี้) ถ้ามีคนติดสุขตามสัก 1.5 ล้าน แสดงว่าได้กระตุ้นกิเลสแล้ว 1.5 ล้านคน*กิเลสของเขา
คนทั่วไปก็มองว่าเป็นกำไร แต่จริงๆคือความขาดทุน เพราะสิ่งที่ทำก็คือกรรม คือเราเป็นเหตุในการกระตุ้นกิเลสเขา เราทำเท่าไหร่เราก็ต้องรับผิดชอบเท่านั้น
ลองคิดดูว่าถ้าชาตินี้มีคนมายั่วกิเลสเราให้เราอยากแต่งงาน 1.5 ล้านครั้ง เราจะทนไหวไหม แต่มันไม่มาแบบนั้นหรอก มันจะทยอยมาชาติละนิดละหน่อย มาล่อลวงให้เราหลงไปตามกรรมที่เราทำไว้ ไม่ขาดไม่เกิน
อะไรที่มันไม่พาพ้นทุกข์ท่านให้ปิดไว้ ถึงจะรักกันหลงกันยังไงก็ให้ปิดไว้เงียบๆเท่าที่จะทำได้ เปิดเผยมามันจะไม่งาม เพราะสิ่งที่เปิดเผยนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะโง่จึงเปิดเผย เพราะโง่จึงหลงผิด
. . . . . . . . . . . .
บทความนี้คนมีศีลในระดับต่างกันจะมีความเห็นต่างกัน (*ศีลในทีนี้คือสามารถปฏิบัติได้อย่างปกติ มีศีลนั้นเป็นสามัญ มีปัญญารู้แจ้งในคุณของศีลนั้น)
1.คนไม่มีศีล มองเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆก็ทำได้ ไม่เห็นแปลก สุขจะตาย
2.คนฐานศีล 5 ก็ยังมองว่าสุขอยู่ รู้ว่าไม่ดีหรอก แต่ชาตินี้ขอมีคู่ก่อนแล้วกันนะ
3.คนฐานศีล 8 ในระดับมรรคจะมีความละอายถ้าตนรู้สึกยินดีในเรื่องมีคู่ ถ้าในระดับผลจะไม่มีความยินดีใดๆแล้ว
4.ศีลมากกว่านั้น เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ ที่คนหลงเสพหลงสุขมัวเมากันไป เหมือนมองเด็กๆ เล่นดินเล่นทราย หยิบขี้หมาแห้งมากินแล้วหัวเราะมีความสุข