ความกล้า

ความกล้า
ในโลกนี้มีความกล้าด้วยกันหลายแบบหลายมิติ บ้างก็กล้าทำชั่ว บ้างก็กล้าทำดี บ้างก็กล้าทำในสิ่งที่ไม่รู้จะทำไปทำไม แม้แต่คนที่กล้าทำเรื่องที่ไร้สาระสุดๆ ก็ยังได้รับลาภ ยศ สรรเสริญ และสุขอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่วนอยู่ในวิถีของโลก ที่สุดแล้วความกล้าเหล่านั้นก็ยังเทียบไม่ได้กับความกล้าที่จะหลุดพ้นจากโลก กล้าออกจากโลกียะไปสู่โลกุตระ
ความกล้าที่จะพาให้พ้นโลก คือ กล้าต่อต้านกิเลสไม่ยอมให้กับกิเลสเหมือนเคย มีอาการแข็งข้อ ไม่ทำตาม ไม่ส่งส่วย ไม่สนใจกิเลส
กล้าต่อสู้กับกิเลส หยิบอาวุธคือปัญญาขึ้นมาต่อสู้กับกิเลส คิดหากลยุทธ์ในการทำลายกิเลสให้ราบคาบ หาทางเอาชนะมันอย่างไม่ลดละ
กล้าทำลายกิเลส ในที่สุดแล้วหากต้อนกิเลสจนมุมได้ ก็จะทำลายมันไม่ให้เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว ไม่ให้เหลือแม้ผงธุลี แม้รอยอาลัยใดๆในจิตใจก็จะไม่ให้เหลือไว้ ถอนรากถอนโคนกันไปเลย
…เหตุที่เราไม่กล้าคิดจะต่อกรกับกิเลสเพราะกลัวเสียสุขที่เคยได้เสพไป
ทำอย่างไรจึงจะเรียกได้ว่ากล้าสู้กับกิเลส ก็คือเริ่มจากศีล พื้นฐานก็คือศีล ๕ แล้วค่อยพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ลดการเบียดเบียนลงไปเรื่อยๆ เมื่อถือศีลก็เหมือนกับเราเข้าสู่สนามรบ หากไม่มีศีลก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอะไร อยากทำอะไรก็ทำ แต่เมื่อมีศีลก็จะต้องต่อสู้กับความอยากที่จะทะลักออกมา พยายามจะทำลายศีลที่เราใช้อาศัยในการกำจัดกิเลส และนี่คือสนามรบของคนกล้า ที่กล้าจะเผชิญหน้าและกล้าทำลายผู้ร้ายที่ชั่วที่สุดในโลกที่มาฝังตัวอยู่ในจิตวิญญาณของเรามานานแสนนาน
– – – – – – – – – – – – – – –
4.9.2558
ข้อควรระวังในการศึกษา (กรณี ละครซีรีส์ พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก)

ข้อควรระวังในการศึกษา (กรณี ละครซีรีส์ พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก)
เป็นประเด็นที่ผมคิดหนักตั้งแต่แรกว่าจะใช้เรื่องนี้ในการช่วยนำเสนอธรรมะหรือไม่ เพราะหลายบท หลายเหตุการณ์ หลายคำพูดนั้น เรียกได้ว่าไม่ตรงกับที่ศึกษามา และหลายครั้งก็เรียกได้ว่าไม่ตรงกับสภาวะที่เกิดจากการปฏิบัติด้วย
เราสามารถดูเรื่องนี้บนพื้นฐานของความบันเทิงได้ แต่การจะนำมาอ้างอิงนั้นควรระวังให้มาก ดังเช่นในกรณีที่ผมยกเรื่องนี้มากล่าวอ้างในบทความต่างๆ จะนำมาเฉพาะในสภาวะที่ตนเองเข้าใจและปฏิบัติได้จริงเท่านั้น เรียกได้ว่าต้องมีความรู้ในตนก่อนจึงจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็ยังมีความเสี่ยงในการสื่อสารที่อาจจะทำให้คนอื่นตีความผิดได้เช่นกัน
การนำหนังเรื่องนี้มาขยายบางบทบางตอนในบทความของเพจนี้นั้นมีความเสี่ยงมาก เพราะอาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อหาทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ก็เป็นได้ จากที่ผมประเมินดูด้วยภูมิของตัวเองนั้น หนังเรื่องนี้มีข้อพลาดมากกว่าข้อดี แต่การเลือกหยิบยกบางจุดมาอธิบายนั้นเพราะข้อดีเหล่านั้นยังพอใช้ได้
หนังเรื่องนี้สร้างบนพื้นฐานของพุทธประวัติก็จริงอยู่ แต่มาจากฉบับไหนก็ไม่รู้ และมีการใส่เนื้อหาบทบาทให้เกิดความน่าติดตาม น่าสนใจ อีกทั้งเนื้อหาในส่วนสำคัญบางตนยังถูกปรับให้เบาจนเสียสาระสำคัญไป ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเป็นเรื่องของการตีบทละครให้ดูง่ายและน่าติดตาม
ดังนั้นผู้ติดตามควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม อย่าพึ่งยึดมั่นถือมั่นในข้อมูลที่ได้รับรู้มา ซึ่งมาบอกกันตอนนี้อาจจะช้าเกินไปสำหรับบางท่าน เพราะจำไปแล้ว เชื่อไปแล้ว เข้าใจเช่นนั้นไปแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องออกมารับผิดชอบเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่หนังเรื่องนี้
– – – – – – – – – – – – – – –
30.8.2558
ถ้าฉันอยู่ไปจนถึง ๑๐๐ ปี

ถ้าฉันอยู่ไปจนถึง ๑๐๐ ปี
ฉันคงได้เผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง การพลัดพรากจากลา
ได้เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของหลายสิ่ง
ได้เห็นความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความลวงของสิ่งต่างๆ
ได้เห็นเด็กน้อยในวันนี้เติบโตจนกระทั่งกลายเป็นคนแก่
ได้เห็นคนวัยเดียวกัน และคนที่สูงวัยในวันนี้ จากไปทีละคน
ไม่ว่าจะคนดีหรือคนชั่วล้วนถูกกรรมกลืนกินไปตามกาลเวลา
ฉันคงได้แต่มองดูการเปลี่ยนแปลงของโลกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อฉันนึกถึงวันนั้น ในวันที่ฉันจะมีอายุ ๑๐๐ ปี ในอนาคต
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ราวกับว่าเป็นเรื่องตลก
คนที่เคยรัก ค่อยๆแก่ เจ็บป่วย และตายจากฉันไป
คนที่เคยชัง ก็ค่อยๆ ตายจากโลกนี้ไปเช่นเดียวกัน
คนที่เคยสวย เคยหล่อ ค่อยๆเหี่ยวย่น แก่ชรา และตาย
คนที่รวยล้นฟ้า มีหน้าที่การงานดี มีชื่อเสียง ก็ตายไปเช่นกัน
มันดูเป็นเรื่องตลกที่ฉันยังหลงมัวเมาอยู่กับหลายสิ่งในวันนี้
ในอนาคตข้างหน้า ในวันที่ฉันมีอายุถึง ๑๐๐ ปี
คนที่เคยอยู่ข้างฉัน เป็นเพื่อนฉัน เป็นกำลังใจให้ฉันในวันนี้
ก็คงจะทยอยหายจากชีวิตของฉันไปจนเกือบหมด
คงไม่เหลือใครที่จำอดีตในวันนี้ของฉันได้ แม้แต่ตัวฉันเอง
ตัวตนของฉันย่อมจะถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน
ฉันในวันนี้ กับฉันในอนาคตก็คงจะไม่ใช่คนเดียวกัน
ในเมื่อฉันได้เห็นว่าความเป็นฉันมันไม่แน่นอนอย่างนี้
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นฉันในแบบทุกวันนี้ไปทำไม
แม้แต่คนรอบตัวฉันก็ไม่แน่นอน ฉันก็ไม่รู้จะยึดไว้ทำไม
ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องถูกกรรมและกาลพรากไป
ฉันก็ไม่รู้จะต่อต้านมันไปเพื่ออะไร …
ในเมื่อความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน
แล้วฉันจะไปหวังให้สิ่งที่ฉันรัก อยู่กับฉันตลอดไปได้อย่างไร
สิ่งที่ฉันจะทำได้ก่อนที่ฉันจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี ไม่ใช่การไขว่คว้า
แต่เป็นการพยายามปล่อยวางในสิ่งที่ฉันยังยึดมั่นถือมั่น
ปล่อยวางให้ได้ก่อนกรรมและกาลเวลาจะมาพรากมันไป
ถึงฉันจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่รักนั้นจากไป
แต่วันหนึ่งมันก็ต้องจากฉันไปอยู่ดี
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะลงมือก่อน
ฉันจะไม่รอกรรม ฉันจะไม่รอกาลเวลามาพรากมันไป
ฉันจะทำลายความยึดมั่นถือมั่นเหล่านั้นด้วยตัวฉันเอง
ทั้งคนที่ฉันรัก คนที่ฉันชัง และไม่ว่าสิ่งใดที่รัก สิ่งใดที่ชัง
ฉันจะปล่อยให้สิ่งเหล่านั้น เป็นไปตามธรรมชาติของมัน
ฉันจะอยู่กับสิ่งเหล่านั้น อย่างกลมกลืนไปตามธรรมชาติของมัน
แต่ฉันจะไม่เอาสิ่งนั้นเข้ามาเป็นของฉัน เป็นตัวฉัน เป็นชีวิตของฉัน
ฉันอยากให้เป็นการก้าวไปสู่ ๑๐๐ ปีที่ดีที่สุดในช่วงชีวิตของฉัน
แม้ว่าฉันอาจจะอยู่ได้ไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ตาม…
– – – – – – – – – – – – – – –
28.8.2558
ขายตรง…
เป็นอาชีพที่สุ่มเสี่ยงที่จะอยู่ใน “มิจฉาอาชีวะ” หลายข้อ ในข้อที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การล่อลวง(ลปนา) และการตลบตะแลง(เนมิตตกตา)
ยังไม่ต้องกล่าวไปถึงอีกสองข้อหลังคือมอบตนในทางที่ผิดและการเอาลาภแลกลาภ เพราะผิดเต็มประตูอยู่แล้ว
อ่านต่อได้ที่กระทู้ : โดนเพื่อนหลอกไปสัมมนา Amway ค่ะ ( รีวิวสัมมนา 2 วัน 1 คืน ของแอมเวย์ )

