Tag: กิเลส

วิบากกรรมสร้างฉาก กิเลสสร้างกรรม

November 6, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,936 views 0

วิบากกรรมสร้างฉาก กิเลสสร้างกรรม

วิบากกรรมสร้างฉาก กิเลสสร้างกรรม

วิบาก(ผล) กรรม(การกระทำ) หรือผลของการกระทำในอดีตของเรานั้น จะเป็นสิ่งที่จะจัดฉากให้เราต้องได้รับสิ่งดีหรือสิ่งร้าย หรือสิ่งไม่ดีไม่ร้ายใด ๆ ก็ตามที่เราเคยทำมา

แต่การจะตัดสินใจใด ๆ ต่อเหตุการณ์นั้นคือสิทธิ์ของเรา แม้ว่าฉากเหล่านั้นจะถูกจัดมาอย่างเลวร้ายหรือแสนดีแค่ไหน เราก็ไม่จำเป็นต้องเล่นไปตามบทบาทที่ถูกเขียนมา เพราะเรามีอิสระที่จะเลือกตัดสินใจทำกรรมใดก็ตามที่จะเป็นกุศล(ความดี), อกุศล(ความชั่ว), ทั้งดีและชั่ว หรือไม่ดีไม่ชั่วก็ได้

แต่อิสระเหล่านั้นกลับเป็นสิ่งที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยกิเลส ความโลภ โกรธ หลงจะเป็นสิ่งที่บงการเรา อยู่เหนืออิสระของเรา ให้เราทำกรรมชั่วนั้น กิเลสจึงเป็นตัวบงการให้สร้างกรรมต่างๆ เช่น เมื่อเจอขนมที่ชอบ ถ้าเราไม่หลงในขนมนั้น ก็คงจะมีอิสระเหนือขนมนั้นอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่เราตกเป็นทาสของกิเลส อิสระของเราเลยกลายเป็นอิสระเฉโก กลายเป็นอิสระในการกิน แต่ไม่เป็นอิสระต่อความอยากกิน เพราะพลังของกิเลสนั่นเอง

การอ้างว่าฉันตัดสินใจทำเช่นนั้นเช่นนี้เพราะกรรมเก่า เป็นการโยนความผิดให้ตัวเองในอดีต โยนบาปให้พ้นตัว ทั้งที่ความจริงแล้ว การตัดสินใจทำกรรมใด ๆ ล้วนเกิดจากเหตุสองทาง หนึ่งคือเกิดจากกิเลส สองคือเกิดจากการไม่มีกิเลส ไม่ได้เกิดกรรมเก่าแต่อย่างใด ( พระไตรปิฎก เล่ม ๒๐ ข้อ ๔๗๓ นิทานสูตร )

การเดินทางสู่ความพ้นทุกข์ นั้นต้องรู้จักรู้จริงในความเป็นปัจจุบัน เข้าใจในพลังของอดีต และความเป็นไปได้ในอนาคต ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองว่าการตัดสินใจใดๆที่ได้ทำลงไปนั้น เกิดจากสาเหตุใด เกิดจากกิเลสก็ยอมรับว่ากิเลส ไม่ใช่เฉโก ฉลาดหลบเลี่ยงบ่ายเบี่ยงว่าไม่ใช่กิเลส แล้วหลงว่าตนไม่มีกิเลสเข้าไปอีก และก็ต้องแยกให้ออกว่ากิเลสตัวไหน แบบใด หาเหตุของมันจึงจะสามารถเข้าไปทำความผิดให้เป็นความถูกได้โดยลำดับ

– – – – – – – – – – – – – – –

6.11.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

บำเรอความรัก ด้วยกิเลส คือความทุกข์

October 13, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,203 views 0

หากเราให้ความหมายของความรักด้วยการ…

บำเรอกันด้วยคำหวาน
บำเรอกันด้วยการเอาใจตามใจ
บำเรอกันด้วยเงินหรือวัตถุ
บำเรอกันด้วยเรือนร่าง
บำเรอกันด้วยการสมสู่
บำเรอกันด้วย … ฯลฯ

….เข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นคือตัวชี้วัดความรัก ก็เตรียมตัวได้เลยว่าความรักเช่นนั้นจะต้องพังลงในสักวันหนึ่ง และทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพักที่ยากจะเก็บกู้ เป็นขยะในจิตใจที่สร้างทุกข์ไปอีกนานแสนนาน นานเท่าที่เคยได้สร้างสิ่งเหล่านั้นไว้

ความรักที่ไม่บำเรอกันนั้นต่างออกไป แม้ว่าในวันหนึ่งมันจะต้องเสื่อมสลายไปตามกาล แต่มันจะไม่มีซากอะไรหลงเหลืออยู่ให้ต้องเป็นทุกข์ เพราะไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาตั้งแต่แรก

นายกิเลสและทาสผู้หลงติดหลงยึดในเนื้อสัตว์

October 12, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,633 views 0

นายกิเลสและทาสผู้หลงติดหลงยึดในเนื้อสัตว์

คนลวงตน สับสน วิกลจริต

หลงความคิด ทุกชีวิต เป็นทาสฉัน

ทั้งกักขัง ทั้งเข่นฆ่า อย่างเมามัน

แล้วเหมาเอา นายทาสนั้น คือฉันเอย

 

แท้ที่จริง คนเป็นทาส วิปริต

ไม่ฉุกคิด ใครเป็นทาส นิ่งทำเฉย

ยังหลงเสพ หลงสุข กันตามเคย

แล้วอ้างเอ่ย มันเป็นทาส ประหลาดจริง

– – – – – – – – – – – – – – –

บทขยาย

ความหลงที่หลอกลวงคนได้ร้ายแรงที่สุดคือ หลงว่าตนนั้นเป็นผู้ประเสริฐ หลงว่าตนนั้นเป็นใหญ่กว่าสัตว์อื่นใดทั้งปวง หลงว่าตนนั้นเป็นเหมือนกับนายทาส ที่สามารถบงการทุกชีวิตให้เป็นไปดั่งใจได้ทั้งหมด

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ได้เกิดขึ้นมาสนองกามตัณหาของคนผู้หลงผิดโดยตรง หลงผิดในตนยังไม่พอ ยังหลงผิดบิดเบือนธรรมชาติเสียอีก สัตว์ก็อยู่ของมันดีๆ ไปจับมันมา เอามันมาขัง เอามันมาฆ่า ไปยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับชีวิตมัน ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้เรียกร้อง ไม่ได้ยินยอม ไม่ได้ต้องการ อุปโลกน์กันเอาเองว่าฉันนี่แหละนายใหญ่ของโลกเป็นผู้บงการชีวิตของสัตว์ใหญ่น้อย

และหลงกันว่าสัตว์เหล่านั้นต้องเกิดขึ้นมาบำเรอตน “พวกเธอต้องตายเพื่อบำรุงบำเรอฉัน บำเรอร่างกายฉัน บำเรอกามฉัน บำเรออัตตาฉัน เพราะฉันประเสริฐที่สุด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เธอถูกฆ่าเป็นกรรมของเธอ แต่ฉันกินเธอไม่เกี่ยวกัน เพราะฉันไม่ได้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกักขังและเข่นฆ่านั้น ฉันเชื่อว่าฉันไม่มีกรรมใดๆเกี่ยวข้องเลย

ก็เป็นความหลงผิดของคนที่ไม่ได้ศึกษา ไปตัดตอนเอาแต่เฉพาะที่ตัวเองต้องการ ตอนเสพก็สุขหนักหนา แต่พอบอกว่ามีกรรมชั่วก็จะไม่รับ ทำเป็นไม่ยุ่งไม่เกี่ยว ตีหน้าซื่อเสพกามอย่างผู้วิเศษ ก็หลงกันไป มอมเมากันไป เบียดเบียนกันไป กรรมมีผลก็เห็นว่าไม่มีผล นี้เป็นความเห็นผิดที่ฝังอยู่ในอัตตาของคน

ถ้าหากเราบอกว่าไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ก็ต้องไม่ไปเกี่ยวเลยทั้งกาย วาจา ใจ คือไม่ต้องไปเอาเนื้อสัตว์เหล่านั้นเข้ามาในชีวิตเลย มันถึงจะไม่เกี่ยวข้องจริงๆ

บ้างก็อ้างว่าฉันไม่ได้ติด ฉันไม่ได้หลง ฉันกินเพื่อเลี้ยงชีวิต แต่ก็ไม่คิดจะหัดพรากหัดละเสียบ้าง ยังจมอยู่กับกาม ด้วยเหตุแห่งการมีลาภ ยศ สรรเสริญ ก็เลยมีสิ่งเหล่านั้นมาบำเรอตนทุกวันไม่ขาด มีเงินก็ซื้อ มีคนเอามาให้ก็รับ ไม่เคยคิดจะพราก หาสารพัดข้ออ้างในการไม่พรากเช่น เกรงใจเขา, ไม่อยากเรื่องมาก, มันก็แค่อาหาร เอ่ยอ้างสารพัดข้อแก้ตัวที่กิเลสสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างน่าฟัง

พอไม่หัดพราก ก็แยกไม่ออกแล้วอันไหนกาม อันไหนอัตตา อันไหนอุเบกขา สรุปว่าสุดท้ายกามก็ติด อัตตาก็จัด อุเบกขาก็คิดเอาเองว่าตนมี เช่นว่าปล่อยวางทุกอย่างแล้วก็กินเนื้อเหล่านั้นไปทั้งๆที่หลีกเลี่ยงได้ ไม่ก็หลงว่าอย่าไปมีตัวตน ถ้าเลือกกินจะมีตัวตน เป็นข้ออ้างของกิเลสผสมข้อธรรมะ ทำให้น่าเชื่อถือขึ้นในอีกระดับหนึ่ง

แล้วก็หลงไปว่าฉันนี่แหละไม่ยึดมั่นถือมั่น ฉันนี่แหละหลุดพ้น แต่กับแค่เนื้อสัตว์ยังไม่ยอมพราก กอดไว้ หวงไว้ รักษาไว้ ฉันจะเสพ ฉันจะต้องมีมันในชีวิต ฉันต้องเลี้ยงชีวิตด้วยสิ่งนั้น ฉันเป็นนายมัน มันเป็นทาสของฉัน ก็ผูกพันกันไว้เช่นนั้น

แท้จริงแล้วการที่คนเราต้องกินเขาเพื่อเลี้ยงชีพนี่แหละคือความเป็นทาส ไม่มีเขาเราก็เป็นทุกข์ ไม่มีเขาเราก็ขาดใจตาย นี่คือความเป็นทาส คอยรับความสุขจากเนื้อสัตว์ที่ถูกเขาฆ่ามา เสพสุขจากกองเลือดและกองกระดูก ให้สัตว์เหล่านั้นเย้ยหยันได้ว่า “โถ…มนุษย์หลงตนว่าเป็นผู้เจริญ แต่กลับต้องคอยเสพสุข ประทังชีวิตจากซากเนื้อที่ไร้วิญญาณของพวกเรา ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

ความจริงนั้นปรากฏให้เห็นกันชัดเจนอยู่แล้วว่าใครกันที่เป็นใหญ่ ใครกันที่เป็นทาส ผู้ที่ถูกกิเลสหลอกให้หลงเสพหลงสุขจนโงหัวไม่ขึ้น ถึงขั้นยึดติดว่าเนื้อสัตว์เป็นตัวเป็นตน เป็นสิ่งจำเป็น เป็นสิ่งที่ควรเสพ เป็นคุณค่า เป็นสิ่งที่น่าได้น่ามีนั้นไม่มีทางพ้นจากความเป็นทาสไปได้เลย

– – – – – – – – – – – – – – –

12.10.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

บทความผมนี่มันไม่ค่อยเอาใจกิเลสเท่าไหร่นะ…

October 7, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,201 views 0

อย่างเรื่องคู่นี่ปิดช่องเลย หาข้อดีในการมีคู่ไม่ได้สักนิดหนึ่ง ไม่เว้นช่องให้กิเลสเลย

นี่ถ้าพิมพ์กันแบบ เนื้อคู่ต้องแบบนั้น รักแท้ต้องมีลักษณะแบบนี้ คู่กันได้แบบนั้นแบบนี้นี่ …สงสัยเพจนี้คงจะดังแบบชาวบ้านเขานะ 555

แต่ใจผมไม่เอาด้วยหรอกนะ ไปบอกคนเอื้อให้กิเลสเขามีช่องให้เสพนี่มันมีวิบากมาก ถ้าเขาหาช่องเองได้มันก็เรื่องของเขา กิเลสใครก็รับผิดชอบกันเอง แค่เราไม่ชี้โพรง(นรก) ให้กระรอกก็พอ

จริงๆผมก็แปลกใจอยู่นะ ที่ยังมีคนติดตาม ข้อความแต่ละบทที่พิมพ์ไปนี่ก็หนักๆทั้งนั้น แม้จะเป็นบทสั้นๆไม่กี่บรรทัดก็หนักในเนื้อหา เรียกว่าคนกิเลสหนาอ่านแล้วหนักใจ ตามไม่ไหวขอไปดีกว่า~

ซึ่งมันก็ดีกับตัวผมเหมือนกัน เอาคนฐานศีลสูง เอาคนมีบุญบารมีมากๆมาก่อนดีกว่า ไปเอื้อให้คนกิเลสหนามาก เดี๋ยวจะปวดหัวทีหลัง

ซึ่งอ่านจากความคิดเห็นก็มีทั้งผู้ที่มีประสบการณ์เจ็บแล้วจำ และผู้ที่ยังไม่เจ็บแต่ก็เรียนรู้ทุกข์ ไม่ว่าจะมีคู่ โสด หรืออกหักมา ถ้าสามารถเห็นทุกข์ เข้ามาศึกษาเหตุแห่งทุกข์ สู่การดับทุกข์ด้วยวิธีปฏิบัติที่มีเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลก็สามารถพ้นทุกข์กันได้

คนโสดเข้าใจความจริงก็สบายหน่อย คนคู่เข้าใจความจริงก็สบายเหมือนกัน แต่จะลำบากกว่าตรงต้องแบกคู่ไปด้วย แต่นั่นก็คงไม่สำคัญเท่าใครสามารถทำลายความหลงติดหลงยึดได้มากกว่ากัน

ผมมีประสบการณ์อยู่ชุดหนึ่งที่คิดว่ามีคุณค่าพอที่จะแบ่งปันโดยไม่อายใคร ใครสนใจก็ลองตามอ่านแล้วพิจารณาประโยชน์ตาม ลองทำความเห็นของตัวเองให้แนบเนียนสอดคล้องไปกับประสบการณ์ของผมดู และจะเห็นว่า สิ่งที่ทำให้มันเห็นตรงกันไม่ได้นั่นแหละ “กิเลส