การคลายเหงา

June 21, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,860 views

การคลายเหงา

การคลายเหงา

แย่ที่สุด..คือการหาแฟน

พอใช้..คือกดข่มและฝืนทน

ดีขึ้นมา..คือหาเพื่อน

ดีที่สุด..คือการล้างกิเลส

กิเลส..ที่เป็นเหตุเกิดของความเหงา

………………….

วิธีการคลายเหงานั้นมีมากมาย แต่ละวิธีก็ให้ผลแตกต่างกันไป แต่ที่แย่ที่สุดคือเหงาแล้วหาแฟนเพื่อแก้เหงา ซึ่งเป็นการสร้างปัญหาอื่นๆเพิ่มเติมในชีวิต ซ้ำยังเป็นการแก้ที่ไม่ถูกจุด เพราะเข้าใจเพียงแค่ว่าการมีคู่เท่านั้นที่จะทำลายความเหงาได้ทั้งๆที่มีวิธีอื่นอีกมากมาย

ที่พอจะทำได้โดยไม่ลำบากตนเองมากนักก็คือกดข่มฝืนทนโดยใช้อุบายต่างๆเขามาควบคุมความฟุ้งซ่านของจิตใจ เช่น หากิจกรรมทำ ขยันทำงาน ใช้ข้อธรรมะ ใช้การปฏิบัติสมถะ ฯลฯ ก็เรียกว่าสามารถจัดการกับความเหงาได้ดีในระดับหนึ่ง

ส่วนที่ดีขึ้นมาคือการหาเพื่อน เพื่อนเป็นคำที่มีความหมายกว้าง ในที่นี้จะระบุลงไปที่ระดับของกัลยาณมิตร คือมิตรที่ดี คอยรับฟัง แบ่งปัน แก้ปัญหา ยินดีช่วยเหลือ เคารพในความเห็นของกันและกัน ฯลฯ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีมิตรที่มีความเกื้อกูลกันในระดับนี้ได้ ซึ่งจะเกิดจากการสร้างขึ้นมาเอง เริ่มจากการยอมรับว่าตนเองนั้นอ่อนแอและยอมรับความช่วยเหลือจากผู้ที่ยินดีจะช่วยและมีศีลธรรม

กัลยาณมิตรจะสามารถแก้ไขของความเหงาได้ดีกว่าแฟน มีความยั่งยืน และมั่นคงกว่า พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดทั้งสิ้นของพรหมจรรย์ นั่นหมายถึงว่าหากเราอยากจะพ้นทุกข์ เราจำเป็นต้องพบกับกัลยาณมิตรเสียก่อน แล้วการมีกัลยาณมิตรจะเป็นสะพานไปสู่การคลายเหงาเอง

แต่ที่ดีที่สุดนั้นก็คือการทำลายความเหงาที่เกิดจากกิเลสนั้นไปเสีย เพราะถ้าไม่มีกิเลส ก็ไม่มีความเหงา ส่วนกิเลสนั้นคือตัวอะไร หน้าตาแบบไหน ก็คงต้องใช้การศึกษาลงไปในจิตของแต่ละคนว่าการที่เกิดความเหงาแล้วเป็นทุกข์แท้จริงแล้วเราอยากเสพอะไร ซึ่งหน้าตาของกิเลสแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน เพราะสร้างและเสพมาต่างกัน

การจะเข้าถึงการทำลายกิเลสได้ต้องเริ่มจากคบหาสัตบุรุษ หรือผู้รู้สัจจะที่พาพ้นทุกข์ ในที่นี้ก็คือผู้ที่มีวิชาทำลายกิเลสจนสิ้นเกลี้ยงและยอมรับท่านเหล่านั้นเป็นกัลยาณมิตรของเรา ถึงแม้เราจะไม่ได้คุยกับท่านเหล่านั้นโดยตรง แต่ก็จะเอาคำสอนของท่านน้อมเข้ามาพิจารณาในใจตามเนื้อหาสาระให้ลงลึกไปจนกระทั่งเห็นกิเลสซึ่งเป็นที่เกิดแห่งทุกข์ทั้งปวง

คือการยอมรับฟังความเห็นของท่าน ศึกษาความเห็นของท่านโดยพิจารณาเอาประโยชน์ว่าแท้จริงแล้วความเห็นของเรานั้นต่างจากท่านตรงไหน สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ สิ่งไหนที่เป็นโทษ เราควรเข้าใจตามท่านหรือเข้าใจตามที่เราเคยเข้าใจ แล้วเหตุอันใดกิเลสตัวไหนที่ขวางกั้นไม่ให้เราสามารถเข้าใจตามท่านได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องศึกษากระบวนการ จนได้ความรู้ในการชำระกิเลสมาเป็นของตน เพียรศึกษากิเลสในตน และเพียรทำลายความยึดมั่นถือมั่นเหล่านั้นให้สิ้นเกลี้ยง ก็จะสามารถทำลายกิเลส ซึ่งเป็นเหตุแห่งความเหงาได้

เมื่อได้รู้เช่นนี้แล้ว เราจึงควรศึกษาการแก้ปัญหาความเหงาให้เกิดประสิทธิภาพ ให้ความเหงานั้นหายไปอย่างถาวร มิใช่แค่เพียงหาสุขลวงมาเสพเพื่อไม่ให้จิตใจทุกข์ทรมานเพราะความเหงา

– – – – – – – – – – – – – – –

20.6.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

Related Posts

  • เหงา เหงา ความรู้สึกเหงา อ้างว้าง ว้าเหว่ เป็นภัยเงียบที่คอยดึงดูดสิ่งที่เป็นทุกข์เป็นโทษเข้ามาให้กับชีวิตอยู่เสมอ เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกขาด จึงเกิดความรู้สึกว่าจะต้องหามาเติม... […]
  • สุกรมัทวะ สิ่งนี้คืออะไร? สุกรมัทวะ สิ่งนี้คืออะไร? *ภาพประกอบจากซีรี่พระพุทธเจ้า ที่มีความเห็นว่าสุกรมัทวะ คือเห็ด สุกรมัทวะนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่มักจะถูกหยิบยกมาอ้างอิง […]
  • สติปัฏฐาน ๔ กับการกินมังสวิรัติ สติปัฏฐาน ๔ กับการกินมังสวิรัติ การที่เราจะสามารถกินมังสวิรัติได้อย่างผาสุก […]
  • ผู้ให้บริการ – การเข้าคิว เมื่อวานผมไปซื้อของที่ตลาดติดแอร์แห่งหนึ่ง ของที่ซื้อก็เป็นพวกผักที่ต้องชั่งน้ำหนัก ซึ่งผมก็เดินไปต่อคิวตามที่ควรจะเป็น ลักษณะของพื้นที่นั้นเป็นหัวมุม ทุกคนสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการได้หลายทิศทาง […]
  • ประชาสัมพันธ์ : งานประชุมมังสวิรัติและงานเทศกาลมังสวิรัติ ผมได้รับเชิญให้ไปพูดในส่วนของงานประชุม ในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ในภาคบ่าย ในส่วนของงานประชุม นักเรียน/นักศึกษาเข้าฟังฟรี ส่วนบุคคลทั่วไปมีค่าใช้จ่ายครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน : […]

Comments are closed.

 

Advertise