Tag: ไม่ศรัทธา
คนพาลมีการเพ่งโทษเป็นกำลัง เป็นอย่างไร?
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนพาลมีการเพ่งโทษเป็นกำลัง หรือแปลเป็นภาษาบ้าน ๆ ว่า คนพาลชอบเพ่งโทษ หรือ การเพ่งโทษคือพลังของคนพาล
ผมจะยกตัวอย่างให้อ่านกันกับเคสเพ่งโทษถือสา แบบมีอคติฝังใจ จะได้ศึกษาว่าถ้าแบบนี้ให้ห่างไว้
ก็เคยมีครั้งหนึ่งที่ผมคุยกับกับเพื่อนอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ คุยกันก็หลายเรื่อง จนเราพูดทักเพื่อนใหม่ไป เขาก็รีบสรุปเลยว่า เราเพ่งโทษในเรื่องที่เขาพูด เพราะเราไปทักในเรื่องที่เขาศรัทธา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีเจตนาเพ่งโทษ แต่เรามีเจตนาจะช่วยเพื่อน เห็นเพื่อนจิตใจฟุ้งฟูล้นปลี่ไปกับโลกธรรม ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนนักปฏิบัติธรรม แล้วเขาสนใจมาศึกษาร่วมกับเรา ก็เลยช่วย เราทักกิเลสเขา แต่เขาไปตีความว่าเราเพ่งโทษเรื่องเขา
แต่อันนั้นเขาคิดคนเดียวนะ อีกสองเสียงไม่ได้เห็นตามเขา คือผมก็เห็นอย่างผม เพื่อนอีกคนก็เห็นอย่างผม ได้ฟังก็เข้าใจว่าไม่ได้เพ่งโทษอะไร เพียงแค่บอกกัน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดประเด็นกัน แต่เพื่อนใหม่นี่พอเขาเข้าใจอย่างนั้น เหมือนจิตเขาหลุดเลย เขา”เดา“ไปว่าเราเพ่งโทษเขาอีก นี่มันเพ่งโทษซ้อนในเพ่งโทษ เป็นนรกตื้น ๆ ที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิด ก็ยังเกิดได้
ปกติถ้าไม่มีใครขอไว้ ผมจะไม่ไปติหรือไปทักใครเป็นส่วนตัว หรือถึงจะขอไว้ แต่ก็จะดูอินทรีย์พละด้วยว่าไหวหรือไม่ ซึ่งปกติผมคุยกับเพื่อนสนิทก็ทักกัน วิเคราะห์เรื่องกิเลสประจำอยู่แล้ว เรียกว่าชินล่ะนะ
ทีนี้เอามาตรฐานที่เราทำประจำมาใช้กับเพื่อนที่เข้ามาใหม่ แล้วความเห็นมันไม่ตรงกัน แล้วเขาปรับไม่ทัน เขาเพ่งโทษไปแล้ว เขาปิดประตูไปแล้ว ไม่ฟังเสียงคนอื่นแล้ว เขาถอนความเห็นผิดไม่ได้แล้ว อธิบายไปก็ไม่ช่วยอะไร
ผ่านไปไม่กี่วัน เพื่อนสนิทผมไปคุยปรับใจให้ เพราะเห็นว่าเขาเพ่งโทษแค่ผม ไม่ได้เพ่งโทษเพื่อน น่าจะพอฟังกันได้อย่างไม่มีอคติ แต่ที่ไหนได้ เพื่อนสนิทผมมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า พูดไม่เข้าเลย เหมือนมีอะไรกั้น เขาไม่ฟัง แถมจิตเขาฝังความเข้าใจผิดไปอย่างยึดมั่นถือมั่นแล้วด้วย
โอ้โห! ผมนี่ซึ้งเลย เวลาคนจะโง่ นี่เขาโง่ได้หนักแน่นจริง ๆ คนพาลมีการเพ่งโทษเป็นกำลังจริง ๆ เดาเอาเอง สรุปเอง ชิงชังเอง ยึดเอง แล้วพาลมาข่มผมซ้ำด้วยนะว่าผมไปเพ่งโทษ ภูมิผมไม่ถึง ไม่น่าเล่าให้ผมฟัง
ทั้งที่จริง ๆ มันตรงกันข้าม เหมือนมีเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่มา แล้วตื่นเต้น เอามาอวด ผมก็ทักไปว่าความตื่นเต้นมันไม่งาม เด็กก็โกรธ ไม่พอใจ แล้วสรุปว่าไม่น่าเอาของเล่นมาโชว์เราเลย อะไรประมาณนี้ …
ก็เอานะ แบบนี้ก็ห่าง ๆ กันไว้ จริง ๆ เขาก็ห่างจากเราไปเพราะเขาเพ่งโทษ ถือสา ดูถูก เขาก็ไม่ศรัทธาเราอยู่แล้วนั่นแหละ
เจอแบบนี้ก็ได้เรียนรู้ว่า อย่าไปรีบปักใจเชื่อว่าเขาจะรับเราไหวนะ บางคนเหมือนจะแกร่ง แต่ก็ได้แค่ท่าดี อินทรีย์พละเป็นเรื่องของจิต ไม่ใช่ท่าที ไม่ใช่บุคลิก ดูเผิน ๆ ดูไม่ออกหรอก ต้องคบคุ้นกันนาน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก็ได้เรียนรู้อีกว่าไม่ต้องไปเอาภาระมาก บางทีบางเรื่องมันก็ต้องดูกันไปยาว ๆ ก่อนจะตัดสินใจช่วย ไม่ช่วยนี่ไม่ยากเท่าไหร่ ไม่ต้องคิดอะไร แต่ถ้าจะช่วย ศรัทธาเขาต้องเต็มที่ เต็มใจ ไม่ใช่มาแบบลองของ อันนั้นเสียเวลาสุด ๆ
จะมีอะไรเสียเวลาชีวิตเท่ากับไปคบคนพาล สร้างกุศลก็ได้น้อย ส่วนบุญนี่ไม่มีเลย เพราะคนพาลไม่ใช่เนื้อนาบุญ ไม่ต้องไปลงทุน ไม่ต้องไปยุ่งมาก