โกงกิน

April 26, 2019 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,810 views 0

โกงกิน

ขึ้นชื่อว่าเป็นคนโกงกิน ย่อมเป็นที่น่ารังเกียจ ไม่น่าคบหา โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจทำดี ย่อมไม่ยินดีในการโกงกิน แต่ถ้าในหมู่โจร คนชั่ว เขาย่อมยินดีในการโกงกิน ยอมชั่ว ยอมบาป เพียงเพื่อให้ตนได้ร่วมผลประโยชน์แห่งการโกงกินนั้น ๆ

โกงกิน หรือกินด้วยการโกงมา ขโมยเขามา ลักเขามา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกวัน จนกระทั่งในทุกมื้ออาหารของหลายคน ก็อาจจะสงสัยว่าฉันจ่ายเงินซื้ออาหารนี้มาโดยสุจริต งานก็งานสุจริต เงินก็เงินสุจริต แล้วจะเรียกว่าโกงกินได้อย่างไร?

ที่เรียกว่าโกงกินนั่นเพราะ ไปกินเนื้อ หนัง ส่วนประกอบของสัตว์ที่เขาไม่ได้เต็มใจให้ แต่เอาอำนาจที่เรียกว่าเงิน ไปติดสินบนคนอื่นหรือที่เรียกอย่างที่ดูเหมือนจะถูกต้องว่า “ซื้อ” เพื่อให้เขาข่มขืน เพาะ เลี้ยง กักขัง ลาก ทำร้าย ทรมาน ฆ่า ชำแหละมาเพื่อตน เพื่อให้ตนได้เสพสมอารมณ์หมายในกามรสของอาหารที่ตนยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของดี เป็นสุข เป็นคุณค่า เป็นเครื่องค้ำจุนชีวิต ฯลฯ แม้งานหรือเงินที่ได้มาจะสุจริต แต่วิธีที่ได้เนื้อสัตว์มานั้น มันไม่สุจริตเลยแม้แต่น้อย

การค้าขายสัตว์ และค้าขายเนื้อสัตว์นั้นเป็นสิ่งที่ชาวพุทธไม่ควรทำตามที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในมิจฉาวณิชชาสูตร ที่ไม่ควรทำนั่นเพราะการซื้อขายเนื้อสัตว์จะทำให้เกิดปศุสัตว์ ทำให้เกิดกระบวนการทรมานและฆ่าอย่างไม่จบไม่สิ้น และที่สำคัญแม้มนุษย์จะเป็นสัตว์ที่มีอำนาจอยู่เหนือสัตว์อื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปกำหนดว่าเราเป็นเจ้าของสัตว์ตัวนั้นตัวนี้ จะไปมีอำนาจเหนือชีวิตเขาไม่ได้ เพราะมันไปละเมิดสิทธิ์เขา มันโกงชีวิตเขา เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเรา แต่เราก็ยังไปสร้างความเชื่อเอาเองว่าสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารจนฝังเป็นอุปาทาน กลายเป็นค่านิยม ความยึดมั่นถือมั่น กลายเป็นสิ่งปกติในสังคมไปแล้ว

การค้าชีวิตสัตว์อื่นนั้นบาปอย่างมาก ไม่มีใครอยากจะพบเจอ ดังเช่นสมัยก่อนมีการค้าทาส ไม่มีใครอยากเป็นทาส ไม่มีใครอยากจะเกิดมาเป็นสินค้า เป็นวัตถุบำเรอกาม บำเรออัตตา บำเรออำนาจของผู้อื่น แม้สมัยนี้ก็ยังมีการค้าขายมนุษย์ โดยที่เจ้าตัวไม่ยินดี คนส่วนมากมักจะรู้สึกโกรธ ชิงชัง รังเกียจ ดังเช่นข่าวว่า แม่ขายลูกบำเรอกามผู้อื่น อันนี้เขาแค่ขายเป็นบริการ ยังไม่ได้กักขัง หรือฆ่า คนยังโกรธขนาดนี้ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นหมูที่ต้องถูกขังในกรงเหล็กแคบ ๆ ถูกข่มขืนด้วยกระบอกน้ำเชื้อ ถูกพรากลูกที่ตัวเองคลอดไป สุดท้ายถูกทำร้ายและฆ่า คนส่วนมากกลับรู้สึกเฉย ๆ อันนี้คือสภาพของความลำเอียงที่เกิดขึ้นในจิต เมื่อมีความลำเอียง การจะมีความเห็นที่ถูกต้อง การจะปฏิบัติตนไปสู่ความถูกต้องและผาสุกย่อมเป็นไปไม่ได้ ทางที่เขาไปนั้นย่อมบิดเบี้ยวและหลงทางเป็นธรรมดา

หรือเราจะลองนึกดูว่าเราเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นจอมบงการ กำหนดทุกอย่างในชีวิต ต้องกินแบบนั้น ต้องออกกำลังกายแบบนี้ ต้องเรียนพิเศษทุกปี ต้องดีอย่างใจเขามั่นหมาย ดีไม่ดีจับคลุมถุงชนอีกด้วย พฤติกรรมอันนี้จะเป็นที่ชอบใจของเราไหม? เราจะยินดีกับชีวิตที่ถูกกดดันบีบคั้นด้วยความคาดหวังของคนอื่นไหม? ในเมื่อเราทุกคนต้องการมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีอิสระ เลือกได้เอง ตัดสินใจได้เอง กำหนดอนาคตได้เอง แต่คนส่วนมากกลับไปยินดีในการกำหนดชีวิตสัตว์อื่น ให้สัตว์อื่นเป็นไปในแบบที่ตนต้องการ เกิดเป็นหมูก็ต้องใช้กรรม ต้องอยู่อย่างหมู ต้องโตอย่างหมู (ที่ตนกำหนดไว้เองว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น) สุดท้ายต้องถูกฆ่าให้ตายให้คนที่อยากกิน เขาซื้อไปกิน ไอ้ที่เบี้ยว ๆ แบบนี้ก็ยังคิดกันไปได้ ทีตัวเองไม่อยากโดน แต่พอสัตว์อื่นโดนก็กลับเมินเฉย ดีไม่ดียังยินดีให้เป็นแบบนั้นอีก เพราะตนเองหลงสุขหลงเสพในเนื้อเขา

จริง ๆ แล้ว การแก้ปัญหาการโกงกิน ก็ด้วยหลักการง่าย ๆ คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราต้องเป็นสัตว์นั้น เราก็เป็นทุกข์ เราไม่อยากเป็นทุกข์ เราก็ไม่ยินดีให้เขาเป็นทุกข์เช่นกัน ดังนั้น เมื่อเรามีอำนาจ เราก็จะไม่ใช้อำนาจเงิน บารมี ฯลฯ ของเราเพื่อไปสนับสนุนการเบียดเบียน เพื่อไม่ให้เรากลายเป็นผู้โกงกิน …โดยสุจริต (ตามความเห็นของเรา)

ที่สำคัญการโกงกินนี้มีผลระดับถึงขั้นฆ่ากันตาย ในโลกนี้จะมีอะไรร้ายแรงกว่าการฆ่ากันอีก เราเองก็ยังรักชีวิตเราที่สุด จะขายรถขายบ้านเพื่อรักษาชีวิตก็ยังทำกันได้ แม้สัตว์นั้นก็รักชีวิตของเขาเช่นกัน ดังนั้นการไม่กินเนื้อสัตว์หรือผลผลิตอื่น ๆ ที่ได้มาจากการเบียดเบียนสัตว์ก็จะเป็นกรรมดีที่ส่งผลไปเพิ่มพลังแห่งการไม่เบียดเบียน แต่ถ้าเรายังยินดีกินเนื้อเขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการได้เนื้อนั้นมาไม่สุจริต ก็ต้องเตรียมใจรับวิบากร้ายความทุกข์ยากด้วยความยินดีเช่นกัน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะยินดีรับทุกข์นั้น จะยกคำตรัสของพระพุทธเจ้ามาปิดท้าย ท่านตรัสไว้ว่า “ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน, แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น.”

ดังนั้นคนเขลาก็ยังจะยินดีโกงกินกันอยู่เรื่อยไป และเข้าใจว่าสิ่งนั้นดี อร่อย มีคุณค่า ไม่บาป ไม่มีผลเสียต่อชีวิตตน ฯลฯ สุดท้ายพอวิบากกรรมซัด ก็ต้องเสร็จกันทุกรายไป นรกบนดินเลยแหละ เจ็บจริงทรมานจริง ทุกข์จริง ตายกันจริง ๆ ไปตามความเกี่ยวข้องของบาปที่ได้ร่วมทำมา

26.4.2562

ดิณห์ไอราวัณวัฒน์

Related Posts

  • สัตว์และเนื้อสัตว์ สิ่งที่ชาวพุทธไม่ควรค้าขาย สัตว์และเนื้อสัตว์ สิ่งที่ชาวพุทธไม่ควรค้าขาย พระพุทธเจ้าได้ตรัสเกี่ยวกับการค้าขายที่ผิด ชาวพุทธไม่ควรทำไว้ด้วยกันห้าข้อในวณิชชสูตร และสองในห้าข้อนั้นก็เกี่ยวพันกับชีวิตของสัตว์โดยตรง การค้าขายสัตว์ (สัตตวณิชชา) […]
  • วิเคราะห์ข้อคิดเห็น : กินเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่ามา ไม่บาป…จริงหรือ? วิเคราะห์ข้อคิดเห็น : กินเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่ามา ไม่บาป...จริงหรือ? ในสังคมเรานั้นยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่มากในประเด็นของการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่ามาว่าบาปหรือไม่บาป ซึ่งผู้ที่กินเนื้อสัตว์ก็บอกว่าไม่บาป […]
  • มหาอำนาจผู้เบียดเบียน มหาอำนาจผู้เบียดเบียน หลายวันก่อนระหว่างไปทำธุระในเมือง ผมเห็นรถขนหมูจอดอยู่ข้างทางใกล้ ๆ กับที่ที่ต้องแวะ จึงเดินไปดู เห็นสภาพของหมูแล้วก็รู้สึกเห็นใจ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ผมก็ทำได้แค่มองมัน มันก็ทำได้แค่มองผม […]
  • ทาสเนื้อสัตว์ ไม่ได้กินก็ทุกข์ กินก็สะสมทุกข์ ทาสเนื้อสัตว์ ไม่ได้กินก็ทุกข์ กินก็สะสมทุกข์ ชีวิตที่อิสระนั้นไม่ได้หมายถึงการที่เราจะสามารถจับจ่ายใช้สอยสิ่งใดๆได้ตามความต้องการ แต่หมายถึงเป็นอิสระจากความอยาก อิสระจากความทุกข์ที่ไม่จำเป็นต้องมีในชีวิต อาจจะจริงที่ว่า […]
  • ธรรมชาติ? ธรรมชาติ? มีหลายคนให้เหตุผลว่าธรรมชาติของคน กินได้ทั้งพืชและสัตว์ กล่าวว่าการกินสัตว์นั้นเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ธรรมชาติที่ว่านั้นกลับไม่ใช่ธรรมชาติของสัตว์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น สัตว์ส่วนมากเกิดและตายในวงจรอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ […]

ฝากความคิดเห็น : Leave a Reply