ทักทาย

บทความมังสวิรัติต่อจากนี้

December 6, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,113 views 0

ก่อนหน้านี้ผมก็เขียนบทความชี้โทษของการกินเนื้อสัตว์และบอกประโยชน์ของการไม่กินเนื้อสัตว์ที่ประยุกต์เข้ากับคำสอนของศาสนาพุทธ มาจำนวนหนึ่งแล้วนะครับ

บทความก่อนๆหน้านี้ สำหรับผมเรียกว่าบทความเรียกน้ำย่อยแล้วกัน เพราะโดยมากจะใช้ภาษาที่ปรับให้เบา เกลาธรรมให้ง่าย สะกิดกิเลสกันพอประมาณ ไม่รุนแรงมาก

แต่หลังจากตอนนี้ผมคิดว่า จะเพิ่มน้ำหนักแล้วนะครับ เพราะกิเลสสมัยนี้มันหนา ถ้าผมไม่ลงแรงมากขึ้นก็จะขูดกันไม่ออกครับ

อย่างบทความล่าสุด “การซื้อเนื้อสัตว์ คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า” ก็เริ่มๆจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาแล้วครับ และอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมจะประมาณดูอีกทีครับ

ในมุมของผู้ปฏิบัติธรรม ผมเห็นว่า การกินเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่ามานี่มันเป็นการเบียดเบียนแบบที่เห็นกันชัดๆเลยนะ ถ้าไม่มีปัญญาเห็นโทษของสิ่งนี้ แล้วศีลในระดับที่ยากกว่าเช่น การกินมื้อเดียว, การประพฤติตนเป็นโสด, การพอเพียง นี่จะเข้าใจได้อย่างไร มันต้องใช้ปัญญามากกว่านั้นในการเข้าถึงคุณของสิ่งเหล่านั้นนะ

นี่แค่เรื่องตื้นๆยังไม่เห็นโทษกัน ไม่ต้องคุยกันเรื่องยากกว่านี้หรอก เพราะที่เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าเบียดเบียนกันฆ่ากัน ยังไม่รุ้ไม่เห็นว่าเป็นโทษ ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ แล้วที่ยากกว่านี้มันจะเข้าใจได้อย่างไร มันก็ถือปฏิบัติกันเอาเท่ๆ เท่านั้นแหละ

เรียกว่าปฏิบัติธรรมเท่ๆ ถือปฏิบัติให้มันดูเท่ๆ น่าเคารพ (สีลัพพตุปาทาน) แต่ไม่มีปัญญาเห็นโทษ

เพราะถ้ามีปัญญาจริงมันต้องเห็นโทษตั้งแต่เรื่องตื้นๆอย่างการไม่สนับสนุนเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่ามาแล้ว

พุทธในไทยไม่ค่อยมีลำดับ ไม่มีเบื้องต้น ท่ามกลาง เบื้องปลาย อยู่ๆก็ไปอยู่กลางมหาสมุทรเลย แต่เรื่องตื้นๆกลับไม่รู้ …มันขัดกับที่พระพุทธเจ้าตรัสอยู่นะ ลองตรวจสอบตัวเองกันให้ดี

ประชาสัมพันธ์ : งานประชุมมังสวิรัติและงานเทศกาลมังสวิรัติ

November 22, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,362 views 0

ประชาสัมพันธ์ : งานประชุมมังสวิรัติและงานเทศกาลมังสวิรัติ

ผมได้รับเชิญให้ไปพูดในส่วนของงานประชุม ในวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ในภาคบ่าย

ในส่วนของงานประชุม นักเรียน/นักศึกษาเข้าฟังฟรี ส่วนบุคคลทั่วไปมีค่าใช้จ่ายครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน : http://www.apvcbangkok2015.com/

หาก ว่า โสด ไม่ ไหว…

November 10, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,172 views 0

ผมพิมพ์บทความเกี่ยวกับโทษของการมีคู่ คุณของความโสดไว้หลากหลาย ซึ่งเนื้อหาส่วนมากนั้นก็ค่อนข้างหนัก

คือจะไม่ยอมให้เบี้ยวไปจากธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสเลย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้บางคนรู้สึกอึดอัด กดดัน ทรมานกับการศึกษาบทความที่ได้เผยแผร่ออกไป

ถึงแม้สิ่งนั้นจะดี แต่กิเลสข้างในมันไม่ยอม มันเถียง มันแย้ง มันจะเอาให้ได้ ถึงขนาดพยายามตีความให้ตนเข้าใจว่าการมีคู่นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ก็มี

จริงๆมันก็ทำได้ ผมก็ไม่ได้ห้าม ถึงแม้จะเป็นคนที่ติดตามศึกษากันมานาน ถึงวันหนึ่งจะเปลี่ยนใจไปมีคู่ ผมก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไร

เพราะเข้าใจว่ามันยาก การประพฤติตนเป็นโสด นี่มันยากกว่าถือศีล ๕ เยอะเลยนะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คิดจะทำก็ทำได้ทันที โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาวที่มีองค์ประกอบพร้อมในการมีคู่ หน้าตาก็ดี เงินก็มี อนาคตก็สดใส การจะปฏิบัติตนให้เป็นโสดนี่มันสวนกระแสธรรมชาติมาก

ซึ่งถ้าพลังธรรมะในตนมันสู้พลังกิเลสไม่ได้ ก็จะทรมานมาก เหมือนเด็กที่เกาะก้อนหินท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว หากวันใดวันหนึ่งจะปล่อยมือแล้วลอยไปตามน้ำก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ก็คงต้องปล่อยให้ไปลองพิสูจน์กันดูว่าการปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกิเลสนั้นสุขจริงไหม ธรรมะดีจริงไหม ใช้ชีวิตพิสูจน์กันไปเลย เล่นจริง เจ็บจริงกันไป ใช้กรรมที่เกิดจากกิเลสกันอีกชาติ

เพราะถ้าหลุดไปนี่กลับมาโสดไม่ได้ง่ายๆหรอก ถ้าฟ้าเขาเปิดทางให้มาศึกษาธรรมะที่พาให้โสดอย่างเป็นสุขแล้วเวียนกลับไปมีคู่ แสดงว่าพลังกิเลสเรามากกว่าพลังของธรรมะ ก็ต้องไปศึกษาความทุกข์ที่เกิดจากกิเลสกันอีก นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถึงจะเกิดปัญญาเข้าใจก็ใช่ว่าจะหลุดกลับมาได้ง่ายๆ คู่ครองเขาอาจจะไม่ปล่อย ดีไม่ดีมีลูกอีกก็เรียกได้ว่ายาวไปเลย

พอมีคู่ครองมีครอบครัวโอกาสศึกษาธรรมะมันมีไม่เท่าคนโสดหรอก ภาระมันมาก วิบากมันเยอะ ปัญหามันก็แยะ ถ้าสามารถดำรงตนให้อยู่ในศีล ๕ ได้มันก็ทุกข์น้อยหน่อย แต่โดยมากก็จะมีโอกาสตกต่ำได้มากกว่า

ถ้าใครตกไปก็ค่อยๆปีนกลับมาใหม่แล้วกัน นรกมันร้อนอยู่นานไม่ไหวหรอก แต่อย่าลงไปจะดีกว่า ใครที่ยังโสดอยู่ก็พยายามประคองตนกันไปก่อน หาเพื่อนโสดช่วยกันเถียงกิเลสก็ได้ ถ้าไม่ไหวก็ลองมาถามไถ่กัน

….แต่ก็นะ นี่ก็ใกล้กลียุคแล้ว ใครเลี่ยงได้ก็เลี่ยง นี่มันยุคที่มีคนเลวมากกว่าคนดี ยากนักที่จะเจอคนดีแท้ เช่นเดียวกับเรื่องลูก ยากนักที่คนดีจะมาเกิด

มารมันก็มายั่วประจำนั่นแหละ ขาประจำมาทุกชาติ มายั่วให้เรารักให้เราหลง ปรนเปรอบำเรอ ดูแลกันเต็มที่ ลด แลก แจก แถมสุดๆ มีมาให้เลือกทุกโปรโมชั่น เพื่อขายสุขลวงแล้วฉุดให้เราลงนรกเหมือนเดิมนั่นแหละ

….เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว โสดกันอีกสักชาติจะเป็นอะไรไป

– – – – – – – – – – – – – – –
9.11.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

มิจฉาอาชีวะ (ข้อ ๔/๕ การมอบตนในทางที่ผิด)

October 18, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,055 views 0

ช่วงนี้ข่าวเกี่ยวกับมิจฉาอาชีวะให้เห็นกันบ่อยๆ เกี่ยวกับการมอบตนในทางที่ผิด เอาตนเองไปทำสิ่งที่ผิดแลกลาภ ยศ สรรเสริญ โลกีย์สุข และรับใช้คน/องค์กรที่ผิด

เช่นการไปยอมรับใช้คนชั่ว ไปทำประโยชน์ให้คนผิด ปกป้องคนเลว ฯลฯ ซึ่งอาชีพที่เสี่ยงที่เห็นได้ชัดก็คือ ทนาย นักการฑูต คนกลาง ผู้ไกล่เกลี่ย ดารา หรือคนที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย

ไปรับงานทั้งงานที่เป็นอกุศล (อันนี้ผิดตรงๆ) ไปรับงานใดๆก็ตามจากคนชั่ว ( อันนี้จางลงมา แต่ก็พอเห็นได้) หรือทำงานอยู่ในองค์กรณ์ที่เอาเปรียบผู้อื่น (อันนี้เห็นยากเข้าใจยาก)

มิจฉาอาชีวะแต่ละข้อนั้นมีความลึกซึ้งละเอียดลออ ไว้มีโอกาสจะเรียบเรียงเป็นบทความมาแบ่งปันกัน