ประเด็นทั่วไป
วันเมษาหน้าโง่ (April Fool’s Day)
วันที่ทางฝั่งตะวันตกเขาฮิตโกหกกันเล่นๆนั่นละนะ
…พอเอาคำว่า “โง่” ของเขามาคิด หนึ่งปีมีวันโง่ๆสักวันก็ไม่เป็นไรนะ เราฉลาดกันมาทั้งปีแล้ว หัดโง่สักวันก็คงจะดี
ฉลาดไปเสียทุกเรื่อง
ฉลาดจนไม่ฟังใคร
ฉลาดจนชีวิตฉิบหาย
การหัดโง่เสียบ้างจะช่วยให้เราหายโง่
ส่วนการฉลาดแสนรู้ไปหมดจะทำให้เรา “โง่ได้อีก”
– – – – – – – – – – – – – – –
1.4.2558
การขยายสมถะ-วิปัสสนา ในช่วงนี้
การที่ผมเน้นหนักความต่างของสมถะและวิปัสสนาในช่วงนี้ เพราะเห็นว่าการปฏิบัติในปัจจุบันมีความโน้มเอียงไปในแนวทางของสมถะและยังมี มากที่เข้าใจว่าสมถะที่ทำอยู่นั้นคือวิปัสสนา
เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วการอธิบายธรรมะต่างๆในศาสนาพุทธแบบสมถะก็สามารถที่จะทำ ได้และจบได้ด้วยความสงบเช่นเดียวกัน ผู้ปฏิบัติจึงอาจจะไม่สังเกตุเห็นความต่างระหว่าง มรรค-ผล ของทั้งสองแนวทางการปฏิบัตินี้
ผมจึงลองเสี่ยงอธิบายแบบประยุกต์ดู ซึ่งแน่นอนว่าแนวคิดนี้จะค้านแย้งกับความเชื่อโดยส่วนมาก แต่ก็ขอให้ท่านลองอ่านและพิจารณากันเอง ถ้าเห็นประโยชน์ก็ลองศึกษาดู ถ้าเห็นเป็นโทษก็ให้ปล่อยวางเสีย
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่มีเจตนาจะข่มผู้ที่ทำสมถะหรือหลงผิดแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นถึงความต่าง ในมรรค ผล เท่านั้น
กินมื้อเดียวแล้วรู้สึกว่า…
ถ้าคุณถือศีลกินมื้อเดียวหรืองดมื้อเย็น แล้วรู้สึกประมาณว่า…
….ต้องอดอยาก
….ต้องกดข่ม
….ต้องฝืนรักษาศีล
….ต้องทำให้ดูดี
….ต้องใช้วันพระเป็นเหตุเท่านั้น
….ต้องทำตามที่เขาทำกัน
….หรืออะไรก็ตามแต่ที่ยิ่งไปทำก็ยิ่งทุกข์
โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องกิเลสเลย…คุณกำลังเข้าใจผิด(ไปจากทางของพุทธ)
ถือศีล ๘ งดมื้อเย็น
วันนี้วันพระ คนนิยมถือศีล ๘ กัน และมักจะงดอาหารเย็น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ได้ลองให้เห็นกิเลสของความอยากกิน
การปฏิบัติศีลนั้นจนบริสุทธิ์จากกิเลสจะมีความรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องไปกินให้มันลำบาก กินก็เปลือง กินก็เกิน คือมีให้กินก็ไม่กิน ยินดีไม่กินด้วยใจที่เป็นสุข โปร่ง โล่ง สบาย ร่างกายก็ผ่อนคลาย ไม่ได้หิวอะไร
จะต่างจากคนที่ลดมื้ออย่างกดข่ม จะรู้สึกอยากกิน แต่ต้องข่มไว้ หรือแม้แต่คนที่ลดมื้อได้อย่างถาวรก็สามารถใช้ความยึดดีมากดข่มไว้ได้เช่นกัน สภาวะเหล่านี้เกิดจากการผลของสมถะ ซึ่งเป็นฐานที่ดีในการปฏิบัติธรรม แต่ก็ไม่ใช่ตัวหลักในการบรรลุธรรม

