Tag: พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก
ข้อควรระวังในการศึกษา (กรณี ละครซีรีส์ พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก)
ข้อควรระวังในการศึกษา (กรณี ละครซีรีส์ พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก)
เป็นประเด็นที่ผมคิดหนักตั้งแต่แรกว่าจะใช้เรื่องนี้ในการช่วยนำเสนอธรรมะหรือไม่ เพราะหลายบท หลายเหตุการณ์ หลายคำพูดนั้น เรียกได้ว่าไม่ตรงกับที่ศึกษามา และหลายครั้งก็เรียกได้ว่าไม่ตรงกับสภาวะที่เกิดจากการปฏิบัติด้วย
เราสามารถดูเรื่องนี้บนพื้นฐานของความบันเทิงได้ แต่การจะนำมาอ้างอิงนั้นควรระวังให้มาก ดังเช่นในกรณีที่ผมยกเรื่องนี้มากล่าวอ้างในบทความต่างๆ จะนำมาเฉพาะในสภาวะที่ตนเองเข้าใจและปฏิบัติได้จริงเท่านั้น เรียกได้ว่าต้องมีความรู้ในตนก่อนจึงจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็ยังมีความเสี่ยงในการสื่อสารที่อาจจะทำให้คนอื่นตีความผิดได้เช่นกัน
การนำหนังเรื่องนี้มาขยายบางบทบางตอนในบทความของเพจนี้นั้นมีความเสี่ยงมาก เพราะอาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อหาทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ก็เป็นได้ จากที่ผมประเมินดูด้วยภูมิของตัวเองนั้น หนังเรื่องนี้มีข้อพลาดมากกว่าข้อดี แต่การเลือกหยิบยกบางจุดมาอธิบายนั้นเพราะข้อดีเหล่านั้นยังพอใช้ได้
หนังเรื่องนี้สร้างบนพื้นฐานของพุทธประวัติก็จริงอยู่ แต่มาจากฉบับไหนก็ไม่รู้ และมีการใส่เนื้อหาบทบาทให้เกิดความน่าติดตาม น่าสนใจ อีกทั้งเนื้อหาในส่วนสำคัญบางตนยังถูกปรับให้เบาจนเสียสาระสำคัญไป ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะเป็นเรื่องของการตีบทละครให้ดูง่ายและน่าติดตาม
ดังนั้นผู้ติดตามควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม อย่าพึ่งยึดมั่นถือมั่นในข้อมูลที่ได้รับรู้มา ซึ่งมาบอกกันตอนนี้อาจจะช้าเกินไปสำหรับบางท่าน เพราะจำไปแล้ว เชื่อไปแล้ว เข้าใจเช่นนั้นไปแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องออกมารับผิดชอบเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่หนังเรื่องนี้
– – – – – – – – – – – – – – –
30.8.2558
อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ ว่าอะไรสำคัญไปกว่าแค่รักกัน
อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ ว่าอะไรสำคัญไปกว่าแค่รักกัน…
ได้ดูพระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลกตอนที่ 31 มีฉากหนึ่งที่หยิบยกมาเตือนใจลูกศิษย์พระพุทธเจ้าที่กำลังอยากมีคู่ นั่นคือฉากที่นำเสนอว่าท่านไม่เก็บแม้แต่ของที่ระลึกจากนางยโสธรา โดยมีบทพูดว่า “หากข้าเก็บมันไว้ มันจะผูกมัดข้ากับกบิลพัสดุ์ตลอดกาล”
…จะเห็นได้ว่าแม้แต่รอยอาลัยเพียงเล็กน้อย ก็จะไม่เก็บไว้กับตน ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ แต่เพราะมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีค่ามากกว่าจะต้องทำ หากยังเก็บรอยอาลัยเหล่านั้นไว้ ก็จะเป็นเครื่องผูกจิตไว้กับโลกีย์ตลอดกาล
เราจะได้เห็นคู่ตัวอย่างของการพ้นทุกข์นั่นคือการมีรักเพื่อทิ้ง พระพุทธเจ้าท่านผูกกับนางพิมพาแล้วก็ทิ้งมาไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ การพบกันนั้นก็เพื่อการพราก และท่านทำให้เราเห็นเลยว่าหากต้องการความเจริญจะต้องยอมพรากไปจากสิ่งที่เรารักที่สุด ไม่ใช่การเสพสุขไปปฏิบัติธรรมไป
เราไม่สามารถประมาณความยากหรือรู้วาระจิตของพระพุทธเจ้าได้เลย เพราะสิ่งนั้นเป็นหนึ่งในอจินไตย เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือความเข้าใจ เหล่าลูกศิษย์จึงทำได้เพียงเข้าใจแนวคิดว่า จะต้องยอมพรากจากสิ่งที่ตนรักตนหวงแหนให้ได้ ไม่ใช่ว่ารักกันไปจนตายแล้วทำใจได้นะ แต่คือการปล่อยทั้งๆที่ยังรักนี่แหละ
ในตอนก่อนหน้านี้มีบทพูดของพระเจ้าพิมพิสารในเรื่องที่เข้ากันดีกับบทความนี้นั่นคือ “คนที่เสียสละทุกอย่าง จะได้ทุกอย่าง” จึงทำให้สรุปความได้ว่า หากอยากจะพบรักที่มากกว่า จงสละรักที่ผูกพันด้วยกิเลสนี้เสีย ตรงกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “พึงสละสุขพอประมาณ เพื่อความสุขอันไพบูลย์”นั่นคือหากไม่ยอมสละความสุขในการมีคู่แล้ว จะไม่มีวันได้พบกับสุขที่มากกว่าเลย
ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ยาก มันเหมือนกับคนที่มีความสุขด้วยปัจจัยมากมายแล้วจะให้พรากสุขออกไปยังที่ที่ไม่มีอะไรเลย เขาไม่ยอมพรากกันหรอก เพราะมันไปสู่ความไม่มีอะไร และเขาก็ไม่เคยสัมผัสสุขนั้นจึงไม่มั่นใจว่าจะมีสุขอันไพบูลย์จริง จึงไม่กล้าทิ้งสุขที่ได้เสพอยู่ ทีนี้จริงๆแล้วที่ไม่มีอะไรเลยนี่มันก็มีนะ มันมีสุขอันไพบูลย์ที่เกิดจากปัญญารู้แจ้งในกิเลส มันไม่มีกิเลส มันก็เลยไม่มีอะไรเลย
สรุปความได้ว่า ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ยิ่งควรพรากออกมา เพราะสิ่งที่รักนั้นจะผูกเราไว้กับเรื่องโลก ให้หลงวนอยู่ในโลก ให้เสพสุขอยู่ในโลกตลอดกาล
โชคดีของคนที่ยังโสด เพราะไม่ต้องไปลองบทเรียนที่ยากสุดยาก ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าทำได้แล้วเราจะทำได้นะ กำลังมันต่างกัน เรายังไม่แกร่งกล้าก็อย่าไปแตะเรื่องคู่ให้มันเหนื่อยทีหลัง ส่วนคนที่มีคู่แล้ว ใช่ว่าจะทิ้งง่ายๆนะ มันต้องมีศิลปะ กว่าจะสลัดหลุดได้ต้องสู้ทั้งกิเลสตัวเอง ทั้งพยายามไม่ให้เกิดอกุศล มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจากกันโดยไม่สร้างเวรสร้างกรรมชั่วทิ้งไว้ให้ต้องรับผลภายหลัง
– – – – – – – – – – – – – – –
20.6.2558