Tag: ความต้องการ
ส่งต่อความรัก
ส่งต่อความรัก
จริงๆแล้วที่เราทุกข์เพราะความรักนี่มันก็ไม่ใช่เพราะเรารักเขามากหรอกนะ แต่เป็นเพราะเราหลงรักตัวเองมากกว่า เพราะว่าเราหลงคิดว่าทุกอย่างต้องเป็นของเรา ทุกคนต้องเป็นอย่างที่เราหวัง ทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่เราฝัน
พอคนหลงรักตัวเองมากก็เลยไม่สามารถรักใครได้จริง มองเห็นแต่ความต้องการของตัวเองไม่เห็นใจใคร ไม่ยินดีที่จะให้ใครมุ่งแต่จะเอาท่าเดียวเพราะหลงรักตัวเองมากเกินไป แล้วหลงไปเรียกสิ่งนั้นว่าความรักอีก ทั้งที่มันเป็นความหลง
ความรักนั้นมีมิติที่หลากหลายและกว้างใหญ่กว่าการรักแค่ตัวเอง รักแค่คู่ของตน รักแค่ในครอบครัว รักชุมชน รักประเทศ รักโลก คนที่ลดความหลงในความรักตัวเองได้ก็จะสามารถรักคนอื่นได้มากขึ้น กว้างขึ้น ไกลขึ้น นานขึ้น นานขนาดว่าทะลุชาติภพกันเลยทะลุผ่านกาลเวลาเกิดมามอบความรักให้กับคนอื่นอยู่ทุกชาติ
ผู้ที่สามารถส่งต่อความรักให้กับผู้อื่นได้นั้นคือผู้ที่ไม่เก็บความรักไว้กับตัว ก็คือไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่พวกของตน จึงสามารถที่จะให้กับใครก็ได้ ใครสักคนที่เขาต้องการ
– – – – – – – – – – – – – – –
แรงบันดาลใจจากเพลง ส่งต่อความรัก [pass the love forward] – บอย โกสิยพงษ์ | version [จัง-หวะ-จะ-เดิน]
(https://www.youtube.com/watch?v=xgiW8aek7A0)
และบทความ “อกหัก”
– – – – – – – – – – – – – – –
26.11.2557
minimal life ในมุมมองของผม
minimal life อาจจะเป็นคำที่หลายๆคน เคยรู้จักกันมาบ้างแล้ว ผมเริ่มต้นคำนี้มาจาก minimal art ซึ่งเป็นผลงานศิลปะซึ่งสร้างสรรค์ความเรียบง่ายให้ดูน่าสนใจ
สำหรับความหมายนั้น
minimal = ขั้นต่ำ,ต่ำสุด,เล็กมาก
life = ชีวิต
ดังนั้น minimal life ในมุมมองของผม หมายถึงการใช้ชีวิตที่กินน้อยใช้น้อย หรือความต้องการขั้นต่ำสุดเท่าที่จะทำให้สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
คำว่า minimal , minimum นั้นจะตรงกันข้ามกับ MAXIMUM หรือมากที่สุดนั่นเอง สำหรับสังคมในปัจจุบันนั้นกำลังไปในทิศทางของ MAXIMUM ซึ่งเป็นไปด้วยกระแสสังคม การโฆษณา การตลาด อะไรก็ว่าไป เรากำลังถูกสร้างให้ต้องการสิ่งของหรืออะไรมากมาย ทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจจะใช้ทั้งชีวิตหรือใช้ทั้งชีวิตก็ยังไม่พอที่จะคว้าเอามาก็ได้ บ้าน รถ ชีวิตที่หรูหรา ลาภ ยศ ซึ่งมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ
คำว่า “พอ” นี่มันยาก ใครจะบอก หรือพูดว่าพอก็สามารถกล่าวอ้างได้ แต่ใครจะทำให้พอจริงๆได้ หรือ “พอใจ” อย่างแท้จริงได้ อาจจะมีข้ออ้างมากมายว่าฉันได้สิ่งนี้สิ่งนั้นแล้วจะพอ แต่ก็มักจะมีอะไรมาทำให้อยากได้มากขึ้นไปอีก ไม่สุดหรือถึงค่า MAXIMUM จริงๆเสียที มันขยับเพดานความต้องการเพิ่มไปได้เรื่อยๆ ตามที่คนเรายังไม่พอ
จนผมต้องกลับมาทบทวนคำว่า “พอ” นอกจากพอแล้วยังต้องลดอีก ลดทุกอย่างให้เข้าสู่ความจำเป็น เท่าที่ชีวิตจะเป็นปกติสุขได้ นั่นคือ minimum คำว่า minimal ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันอีก ขึ้นกับพื้นฐานของแต่ละคน แต่ที่แน่นอนว่าแตกต่างกับ MAXIMUM ก็คือ มันมีจุดจบ เพราะยังไงค่าสุดท้ายของมันก็คือ 0 ก็คือไม่มีอะไรเลยนั่นเอง ( ไม่มีติดลบหรอกนะ )
การใช้ชีวิตแบบ minimal life เป็นแนวคิดที่เบียดเบียนธรรมชาติน้อย เบียดเบียน (ใจ) ตัวเองน้อย ไม่ต้องลำบาก มีแค่พอดี สามารถแบ่งปันกลับไปธรรมชาติและสังคมได้ เพราะส่วนใหญ่เมื่อเรากินน้อยใช้น้อย ก็มักจะมีของเหลือใช้เป็นธรรมดา ไม่ต้องอยากได้อะไร ไม่อยากได้ของใคร ไม่อยากเป็นอะไร เป็นอิสระจากความต้องการทั้งปวง