ถ้าฉันอยู่ไปจนถึง ๑๐๐ ปี
ถ้าฉันอยู่ไปจนถึง ๑๐๐ ปี
ฉันคงได้เผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง การพลัดพรากจากลา
ได้เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของหลายสิ่ง
ได้เห็นความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความลวงของสิ่งต่างๆ
ได้เห็นเด็กน้อยในวันนี้เติบโตจนกระทั่งกลายเป็นคนแก่
ได้เห็นคนวัยเดียวกัน และคนที่สูงวัยในวันนี้ จากไปทีละคน
ไม่ว่าจะคนดีหรือคนชั่วล้วนถูกกรรมกลืนกินไปตามกาลเวลา
ฉันคงได้แต่มองดูการเปลี่ยนแปลงของโลกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อฉันนึกถึงวันนั้น ในวันที่ฉันจะมีอายุ ๑๐๐ ปี ในอนาคต
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ราวกับว่าเป็นเรื่องตลก
คนที่เคยรัก ค่อยๆแก่ เจ็บป่วย และตายจากฉันไป
คนที่เคยชัง ก็ค่อยๆ ตายจากโลกนี้ไปเช่นเดียวกัน
คนที่เคยสวย เคยหล่อ ค่อยๆเหี่ยวย่น แก่ชรา และตาย
คนที่รวยล้นฟ้า มีหน้าที่การงานดี มีชื่อเสียง ก็ตายไปเช่นกัน
มันดูเป็นเรื่องตลกที่ฉันยังหลงมัวเมาอยู่กับหลายสิ่งในวันนี้
ในอนาคตข้างหน้า ในวันที่ฉันมีอายุถึง ๑๐๐ ปี
คนที่เคยอยู่ข้างฉัน เป็นเพื่อนฉัน เป็นกำลังใจให้ฉันในวันนี้
ก็คงจะทยอยหายจากชีวิตของฉันไปจนเกือบหมด
คงไม่เหลือใครที่จำอดีตในวันนี้ของฉันได้ แม้แต่ตัวฉันเอง
ตัวตนของฉันย่อมจะถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาเช่นกัน
ฉันในวันนี้ กับฉันในอนาคตก็คงจะไม่ใช่คนเดียวกัน
ในเมื่อฉันได้เห็นว่าความเป็นฉันมันไม่แน่นอนอย่างนี้
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นฉันในแบบทุกวันนี้ไปทำไม
แม้แต่คนรอบตัวฉันก็ไม่แน่นอน ฉันก็ไม่รู้จะยึดไว้ทำไม
ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องถูกกรรมและกาลพรากไป
ฉันก็ไม่รู้จะต่อต้านมันไปเพื่ออะไร …
ในเมื่อความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน
แล้วฉันจะไปหวังให้สิ่งที่ฉันรัก อยู่กับฉันตลอดไปได้อย่างไร
สิ่งที่ฉันจะทำได้ก่อนที่ฉันจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี ไม่ใช่การไขว่คว้า
แต่เป็นการพยายามปล่อยวางในสิ่งที่ฉันยังยึดมั่นถือมั่น
ปล่อยวางให้ได้ก่อนกรรมและกาลเวลาจะมาพรากมันไป
ถึงฉันจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่รักนั้นจากไป
แต่วันหนึ่งมันก็ต้องจากฉันไปอยู่ดี
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะลงมือก่อน
ฉันจะไม่รอกรรม ฉันจะไม่รอกาลเวลามาพรากมันไป
ฉันจะทำลายความยึดมั่นถือมั่นเหล่านั้นด้วยตัวฉันเอง
ทั้งคนที่ฉันรัก คนที่ฉันชัง และไม่ว่าสิ่งใดที่รัก สิ่งใดที่ชัง
ฉันจะปล่อยให้สิ่งเหล่านั้น เป็นไปตามธรรมชาติของมัน
ฉันจะอยู่กับสิ่งเหล่านั้น อย่างกลมกลืนไปตามธรรมชาติของมัน
แต่ฉันจะไม่เอาสิ่งนั้นเข้ามาเป็นของฉัน เป็นตัวฉัน เป็นชีวิตของฉัน
ฉันอยากให้เป็นการก้าวไปสู่ ๑๐๐ ปีที่ดีที่สุดในช่วงชีวิตของฉัน
แม้ว่าฉันอาจจะอยู่ได้ไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ตาม…
– – – – – – – – – – – – – – –
28.8.2558
ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)