การซื้อเนื้อสัตว์ คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า

December 2, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,826 views 3

การซื้อเนื้อสัตว์ คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า

การซื้อเนื้อสัตว์ คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า

การที่กิจการใดๆจะสามารถดำรงอยู่และเจริญเติบโตขึ้นได้นั้น เกิดจากแรงสนับสนุนจากหุ้นส่วนใหญ่ที่เรียกว่า “ลูกค้า” เมื่อกิจการปราศจากลูกค้า กิจการนั้นย่อมล้มละลาย

ลูกค้านั้นคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับกิจการ คือหากซื้อผลิตภัณฑ์นั้นแล้วจะเกิดความสุขความพอใจ หากว่าหาซื้อไม่ได้ก็จะเกิดความหงุดหงิดรำคาญใจ นั่นหมายถึงว่ามีการเกื้อกูลกันระหว่างลูกค้าและกิจการ เป็นการขายสิ่งหนึ่งเพื่อแลกกับอีกสิ่งหนึ่ง

เช่นเดียวกับกิจการค้าขายเนื้อสัตว์ การที่อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เจริญเติบโตอย่างยิ่งใหญ่จนเป็นธุรกิจระดับประเทศในทุกวันนี้ก็เรียกได้ว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเสมอมา เงินทุกบาททุกสตางค์ของลูกค้าที่จ่ายเข้ามาให้กิจการนั้น ได้นำไปพัฒนาปริมาณของการผลิตสินค้าอย่างมากมายเพื่อที่จะมาตอบสนองต่อ “ตัณหา” ของลูกค้าปริมาณมากเพื่อให้ได้ซึ่งเงินปริมาณมหาศาลนั่นเอง

เงินทุกบาทที่ลูกค้าได้จ่ายไปนั้น ยังช่วยเอื้อให้เขาได้เบียดเบียนสัตว์อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะกิจการเล็กหรือใหญ่ จะระดับชาวบ้านหรือบริษัทมหาชน เงินที่ได้จ่ายไปนั้นล้วนช่วยผลักดันให้เกิดการ กักขัง บังคับ ยัดเยียด ข่มขืน ทำร้าย และเข่นฆ่า แม้แต่การซื้อเนื้อสัตว์ผ่านนายหน้าค้าเนื้อสัตว์ ดังเช่นร้านอาหารต่างๆ ก็ส่งผลให้เกิดเงินสะพัดในกลุ่มธุรกิจบาปนี้เช่นกัน

เจตนาที่จะซื้อขายทั้งที่สิ่งเหล่านั้นเป็นการเบียดเบียน นั่นหมายถึงเจตนาที่จะมีส่วนร่วมในกรรมชั่ว เป็นหุ้นส่วนร่วมฆ่า แม้จะไม่ได้ฆ่าเองแต่ก็มีส่วนได้ส่วนเสียในการฆ่า คือได้เสพสุขจากผลของการฆ่าเหล่านั้น

แน่นอนว่าการปันผลให้กับผู้ร่วมหุ้นโดยกรรมนั้นยุติธรรมเสมอ เราร่วมลงทุนไปเท่าไหร่ เขาก็ปันผลให้เท่านั้น เราเบียดเบียนไปเท่าไหร่ เขาก็ให้เราได้รับการเบียดเบียนเท่านั้น เป็นการร่วมหุ้นในกิจกรรมที่ได้รับปันผลอย่างยุติธรรม ทุกคนจะได้รับปันผลเท่าๆกับเงินที่ร่วมลงทุนไปกับการฆ่าเหล่านั้น

และยังมีโบนัสอีกมากมาย เช่น การร่วมหุ้นลงทุนร่วมธุรกิจบาปเหล่านั้น ยังไปส่งเสริมให้คนหลงในอาชีพที่ผิดไปจากทางพ้นทุกข์ ให้เขาได้หลงมัวเมาว่าการล่า การกักขัง การฆ่านี้เป็นคุณ แม้จะบาปแต่ก็คุ้มค่าที่ได้เงินมาใช้จ่าย เป็นอาชีพที่ผู้ร่วมหุ้นทุกคนยอมรับและมองว่าเป็นพนักงานที่เสียสละ

นั่นหมายถึงเราจะได้รับวิบากกรรมอีกส่วนที่ทำให้คนหลงมัวเมาในอาชีพที่ผิดศีล เห็นผิดเป็นชอบ เห็นเงินมีคุณค่ามากกว่าคุณธรรม หลงว่าการเบียดเบียนนั้นไม่มีโทษ ซึ่งเราก็จะได้เผชิญกับเรื่องที่วิปริตผิดศีลธรรมแบบใดแบบหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ควรแล้วหรือที่เรายังร่วมลงทุนในธุรกิจบาปเหล่านี้อีก ในเมื่อเม็ดเงินทุกเม็ดได้ไหลไปสร้างความทุกข์ โทษ ภัยให้กับสัตว์อื่น หรือยังมีความเห็นผิดว่าการร่วมหุ้นในธุรกิจบาปเหล่านี้ไม่มีการปันผลกรรมชั่ว ยังเห็นผิดว่ากรรมที่ทำแล้วไม่มีผล ยังเห็นผิดว่าการเบียดเบียนไม่มีโทษทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

เมื่อนักลงทุนผู้มีปัญญาเห็นดังนี้แล้วว่า นี้เป็นการร่วมหุ้นที่มีแต่ขาดทุนฝ่ายเดียว ไม่มีแม้แต่กำไรใดๆ จึงควรถอนหุ้นจากธุรกิจบาปนี้เสีย และชักชวนให้คนอื่นเลิกลงทุนในธุรกิจบาปเหล่านี้ด้วย รวมทั้งสนับสนุน ส่งเสริม ยินดี ชื่นชมในประโยชน์แห่งการออกจากธุรกิจบาปนี้ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น

– – – – – – – – – – – – – – –

30.11.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

Related Posts

  • เพราะเหตุนี้ ฉันจึงเลิกกินเนื้อสัตว์ เพราะเหตุนี้ ฉันจึงเลิกกินเนื้อสัตว์ ย้อนไปเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ตอนที่ผมยังไม่รู้จักธรรมะ ผมใช้ชีวิตแสวงหาความสุขโดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือการสร้างความเบียดเบียนให้กับผู้อื่น ผมได้ถูกโลกและกิเลสมอมเมาอยู่จนกระทั่งได้พบกับความจริง 4 […]
  • ทาสเนื้อสัตว์ ไม่ได้กินก็ทุกข์ กินก็สะสมทุกข์ ทาสเนื้อสัตว์ ไม่ได้กินก็ทุกข์ กินก็สะสมทุกข์ ชีวิตที่อิสระนั้นไม่ได้หมายถึงการที่เราจะสามารถจับจ่ายใช้สอยสิ่งใดๆได้ตามความต้องการ แต่หมายถึงเป็นอิสระจากความอยาก อิสระจากความทุกข์ที่ไม่จำเป็นต้องมีในชีวิต อาจจะจริงที่ว่า […]
  • การซื้อขายเนื้อสัตว์ คือเหตุที่ทำให้ต้องฆ่าสัตว์ การซื้อขายเนื้อสัตว์ คือเหตุที่ทำให้ต้องฆ่าสัตว์ ไม่มีใครยอมเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นฟรีๆ เขาเลี้ยงเพื่อขายให้ได้เงิน ไม่มีใครยอมฆ่าสัตว์เหล่านั้นฟรีๆ เขาฆ่าเพื่อขายให้ได้เงิน ไม่มีใครยอมรับเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาแจกฟรีๆ […]
  • ความประหยัดเรียบง่ายของชีวิตมังสวิรัติ วันก่อนไปซื้อมะเขือเปราะมาทำแกง กิโลกรัมละ 20 บาท กก. นึงแบ่งกินได้ประมาณ 2 วันกว่า ๆ มาคิดถึงเนื้อสัตว์ ราคาเนื้อสัตว์ในยุคปัจจุบันโดยเฉลี่ยน่าจะไม่เคยลงไปแตะถึง 20 บาท/กก. นี่เรากินผืชกินผัก เราก็ประหยัดได้มากกว่า เรียบง่ายกว่าด้วย […]
  • ทุกข์จากความรัก คืออาหารของปัญญา เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม คือข้อธรรมที่เผยแพร่เป็นที่รู้กันโดยมาก เนื้อหาสั้น ๆ เหมือนจะเข้าใจง่าย แต่จริง ๆ เข้าใจได้ยากมาก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะกิเลสมันจะบังไว้ไม่ให้เห็นธรรม จะมีก็แค่ได้เป็นทุกข์เท่านั้นเอง ถ้าไม่ชีวิตไม่เจอสัตบุรุษ […]

Comments (3)

  1. อันนี้เขียนเชิงวิเคราะห์การลงทุนเฉยๆนะเนี่ย โยงเข้าเรื่องกรรมนิดๆหน่อยๆ ให้พอมีรสชาติบ้าง

    คนอัตตาจัดนี่อ่านแค่หัวข้อก็ของขึ้นแล้ว ถ้าไปอ่านเนื้อหานี่เรียกได้ว่าโดนเป็นชุด เขียนกันแค่ในมุมธุรกิจนี่แหละนะ โดยยึดหลักว่าการฆ่านี่มันควรส่งเสริมไหม เท่านั้นเอง เบสิคมากๆ คนดีๆก็จะยอมจำนนต่อการไม่เบียดเบียนได้ง่าย ส่วนคนไม่รู้ว่าอะไรดีก็เถียงกินต่อไป

    บทความต่อไปคิดว่าน่าจะแรงกว่านี้อีก รอกันต่อไป~ ยังไม่รู้จะเริ่มเมื่อไหร่ มีแค่หัวข้อวางไว้

  2. ใครที่คิดว่าไม่เกี่ยวนี่ลองเทียบกับเรื่องหุ้นดูนะ คนเล่นหุ้นเขาก็ไม่ได้ทำงานในธุรกิจนั้นเหมือนกัน ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องบริหารเลย บางทีกิจการขายอะไรยังไม่รู้เลย
    แต่สุดท้ายเขาก็ได้เงินปันผล สมเหตุสมผลไหม? ก็เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ทำไมเขาถึงได้เงินปันผลล่ะ??? เพราะเขาลงเงินไง การซื้อเนื้อสัตว์ก็เช่นกัน คุณลงเงินไปเดี๋ยววันหนึ่งคุณก็ได้ปันผลเองแหละ คุณไม่ต้องฆ่าสัตว์เองหรอก แต่มันจะได้เอง สมเหตุสมผลดีไหม

  3. การที่เรายังกินเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่ามาอยู่ แม้เราจะไม่ได้ซื้อเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาเอง แต่ก็ต้องมีคนหามาให้ นั่นหมายถึงเราเป็นเหตุแห่งการฆ่า

    ในทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จนถึงการทำการตลาดเขาจะต้องดูว่า “ลูกค้า” ต้องการเสพอะไร พอเขาวิเคราะห์จนถึงที่สุดแล้วเขาก็เอา “สิ่ง” ที่คิดว่าจะโดนใจลูกค้า “คือลูกจะต้องซื้อ” ออกมาขาย นั่นยืนยันถึงคนที่กินนั่นแหละเป็นเหตุในการฆ่าสัตว์

    ไม่เชื่อก็ลองไปขายเนื้อสัตว์ในหมู่บ้านที่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ได้ เผื่อจะได้ซึ้งถึงคำว่า demand supply (ถึงแม้วิธีการมันจะดูโง่ๆก็เถอะ แต่ถ้าไม่เข้าใจนี่ก็คงโง่ดักดานเชียวล่ะ)

ฝากความคิดเห็น : Leave a Reply