Tag: ความรัก

การมีความรัก เพื่อขัดเกลากิเลส

May 2, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,059 views 0

การมีความรัก เพื่อขัดเกลากิเลส

การมีความรัก

เพื่อขัดเกลากิเลส

ก็ตกอยู่ภายใต้กิเลส

…ตั้งแต่แรกแล้ว

= = = = = = = = = = =

การที่คนเราจะไปหลงสุขในการมีคู่ครองนั้นคงจะไม่แปลกอะไรสำหรับคนทั่วไป

แต่คนที่หันหน้ามาหาธรรม เข้ามาปฏิบัติธรรมแล้ว ยังมีทิศทางที่ไปสู่การมีคู่

โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ ให้การมีคู่มีน้ำหนัก มีคุณค่า มีเหตุมีผล น่าได้ น่ามี น่าเป็น

เป็นพลังของกิเลสที่พาให้หลงไป ให้หลงคิดว่าวิธีเรียนธรรมของตนนั้นดีเยี่ยม

เพราะได้ทั้งเสพสุขและปฏิบัติธรรมไปในตัว เป็นความโง่สุดโง่ที่หลงไปในกิเลส

โดนกิเลสจูงให้ไปเสพโดยที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นผู้มีปัญญา สมดุลโลกและธรรม

กิเลสมันร้ายแบบนี้ มันชั่วแบบนี้ มันทำให้เราเป็นคนไร้เดียงสาที่คิดว่าตนฉลาดที่สุด

….ทั้งที่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงการล่อลวงของกิเลส อยู่ภายใต้การควบคุมของกิเลส

ทำให้จมอยู่ในความหลงผิด เชื่อในทางที่ผิด และเห็นทางที่ผิดเหล่านั้นเป็นทางที่ถูก

แล้วมันจะขัดเกลากิเลสได้อย่างไร ในเมื่อตนนั้นหลงอยู่ในกิเลส ขัดยังไงก็อยู่ในกิเลส

เหมือนคนที่คิดจะไปอาบน้ำขัดตัวโดยหวังความสะอาด แต่กลับลงไปขัดตัวในบ่อเก็บขี้

ขัดไปมันก็มีแต่เปื้อนขี้ปนเชื้อโรค แล้วมันจะสะอาดไหม? มันจะสุขไหม? มันจะดีไหม?

ท่านผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ก็ลองพิจารณากันดู ว่ามันจะคุ้มไหม?

มันจะได้มากกว่าเสียจริงไหม? ถ้าท่านเห็นว่าเป็นทางที่ไม่ควรก็พึงละเสีย พรากจากทางนั้นเสีย

อย่าได้เข้าใกล้ อย่าไปคลุกคลี อย่าปล่อยใจให้เผลอไปตามกลลวงของกิเลสที่คอยยั่วเย้า

แล้วเพียรพิจารณาให้เห็นโทษภัยตามความเป็นจริง ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้กันเถิด

– – – – – – – – – – – – – – –

2.5.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

รักไม่มีเงื่อนไข

May 1, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 8,204 views 0

รักไม่มีเงื่อนไข

รักไม่มีเงื่อนไข

นิยามของความรักนั้นมีมากมายตามแต่ใจของใครจะปั้นแต่งขึ้นมา และนิยามที่ว่า รักแท้นั้นไม่ควรมีเงื่อนไขใดๆ ก็เป็นนิยามหนึ่งที่มีความหมายลึกซึ้งมาก

ในมุมมองของคู่รัก คำว่า “รักไม่มีเงื่อนไข” นั้นดูเหมือนการเฝ้าดูแลเอาใจใส่ ยอมอดทนเสียสละ หวังดีให้กับคู่รักของตนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ซึ่งก็ถือว่าดีแล้วในเบื้องต้น

แต่คำว่า “รักไม่มีเงื่อนไข” แท้จริงแล้วยังมีนัยที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นซ่อนอยู่ นั่นคือการรักโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เลย ไม่จำเป็นว่าคนนั้นต้องเป็นคู่รัก ไม่จำเป็นว่าคนนั้นต้องเป็นคนรู้จัก ไม่จำเป็นว่าคนนั้นต้องเป็นมิตรหรือศัตรู ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนเสียด้วยซ้ำ จะเป็นวัตถุสิ่งของ หรือต้นไม้ แม่น้ำ อากาศ ก็สามารถรักได้หมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆมากั้นขอบเขตของความเมตตาได้

ดังนั้นรักที่ไม่มีเงื่อนไขจึงมีทั้งความลึกและกว้าง ความลึกนั้นคือลึกซึ้งในเนื้อหาสาระ ส่วนความกว้างคือขอบเขตของรักที่กระจายออกไปโดยไม่มีกำแพงของความเห็นแก่ตัวใดๆมากั้นไว้

ถ้าเราสามารถรักได้แบบไม่มีเงื่อนไขได้จริง เราจะไม่ผูกใครไว้กับเรา เราจะไม่เจาะจงว่าจะรักใคร เราจะไม่สร้างเหตุให้เราได้เสพสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราจะไม่ไปยึดมั่นสิ่งใดๆทั้งปวงในโลกเลย

การที่รักนั้นยังมีอยู่แค่ในคู่รัก จึงเป็นความรักที่คับแคบ เห็นแก่ตัว สร้างเงื่อนไขว่าจะรักแค่สิ่งที่ตนชอบใจเท่านั้น จะรักแต่คนที่สนองกิเลสให้ตนได้เท่านั้น จะรักแต่คนที่มีประโยชน์สร้างความสุขให้ชีวิตตนเท่านั้น

เมื่อรักนั้นถูกกำหนดกรอบด้วยตัวบุคคล วัตถุ สิ่งของ ความเชื่อ สังคม เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ รักนั้นจึงได้ชื่อว่ายังมีเงื่อนไขอยู่นั่นเอง

– – – – – – – – – – – – – – –

27.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

กรณีศึกษาความโลภที่ซ่อนในความรัก

April 27, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,368 views 0

ความไม่เคยพอของกิเลส
กรณีศึกษาความโลภที่ซ่อนในความรัก

(http://pantip.com/topic/13112327)

การใช้ทรัพย์ที่ตนมี เช่น หน้าสวย หุ่นดี ไปแลกกับลาภที่มากกว่า ผลออกมาคล้ายกับนิทานอีสิปที่ว่าด้วยหมาคาบเนื้อแล้วไปเห็นเงาเนื้อที่สะท้อนในน้ำใหญ่กว่า จึงทิ้งเนื้อในปากเพื่อจะได้เนื้อที่ใหญ่กว่า สุดท้ายจึงทำให้เสียเนื้อไป

คนเราโดยส่วนใหญ่เมื่อถูกกิเลสยั่วยวนก็มักจะหลงตามไปเสพอยู่เสมอ แม้จะมีให้เสพอยู่แล้วแต่ก็มักจะไม่เคยพอ หวังจะได้เสพในสิ่งที่จะบันดาลสุขให้แก่ตนมากขึ้นไปอีก มากขึ้นไปอีก และมากขึ้นไปอีก

กรณีศึกษา : ความเชื่อมั่นในความรักกับความไม่เคยพอของกิเลส

April 25, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,332 views 0

ยิ่งกว่าละคร… ( http://pantip.com/topic/33550684 )

วิบากกรรมชั่ว นี่ตอนแรกจะมาดีๆนะ มาแบบหลอกให้เราหลงว่าคนนี้แหละ ใช่เลย!! เนื้อคู่แน่ๆ

อาจจะใช้เวลาเป็นปี สิบปี ยี่สิบปีก็ได้ อาการคือ คอยตามสนองกิเลส ตามจีบ ตามง้อให้เรายอม

พอยอมเท่านั้นแหละ ลงนรกไปเลย… หลังจากนี้เราก็จะได้ลิ้มรสวิบากบาปที่ตัวเองเคยทำไว้อย่างสาสมเท่ากับที่เราทำมา

ก็จะโทษใครได้เล่า ทั้งหมดนั้นก็คือผลกรรมที่เราทำมาเองนั่นแหละ มันไม่ง่ายหรอกนะที่จะดูออก เพราะมันจะทำให้เราหลงไปยินดีกับเรื่องที่พาให้ชั่วได้ง่ายๆเลย