บทกลอน คำคม

ความรัก…ไม่จำเป็นต้อง…

May 2, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 8,968 views 1

ความรัก...ไม่จำเป็นต้อง...

ความรัก…

ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน

ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน

ไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัว

ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขใดๆ

…เพียงเพื่อจะได้ครอบครอง

= = = = = = = = = = =

คนที่รักกันจริงนั้น ย่อมไม่คิดจะผูกพัน

ด้วยเงื่อนไขที่ผูกมัดเช่น แฟน หรือครอบครัว

แม้จะเป็นคนที่รักแสนรักปานใด

ก็จะไม่ยอมทำบาปและสร้างอกุศล

เพียงเพื่อได้เสพสุขที่ลวงโลกเหล่านั้น

…แต่จะคงไว้ซึ่งความเป็นมิตรที่ดี

เป็นผู้แบ่งปัน เกื้อกูล ดูแล ตักเตือน ฯลฯ

เพื่อนำพาคนที่รักนั้นไปสู่ความเจริญฝ่ายเดียว

…ผู้ที่เข้าไปผูกพันนั้น คงจะหนีไม่พ้นเหตุแห่งกิเลส

ด้วยความหลงในโลกียรส หลงในการสมสู่

หลงในการครอบครอง อยากได้เป็นเจ้าของ

หากเว้นขาดจากเรื่องเหล่านี้แล้ว

การคบหากันเป็นแฟน หรือแต่งงาน

ก็เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอีกเลยในชีวิต

ซึ่งจะคงเหลือไว้แต่ความเป็นมิตรที่ดีเท่านั้น

= = = = = = = = = = =

บทขยาย: ในบทนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ความรักที่แท้จริงนั้นไม่จำเป็นต้องครอบครองด้วยสถานะใดๆที่เกินเพื่อนเลย หากเราไม่ต้องการครอบครองเขา ไม่สมสู่เขา ไม่หลงเสพสุขในกามคุณ โลกธรรม อัตตาทั้งหลายที่เขามี เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปมีความสัมพันธ์ให้เกินเพื่อน

คนที่พยายามให้ความสัมพันธ์นั้นเกินเพื่อนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันก็เป็นเพียงข้ออ้างของกิเลสที่ปั้นแต่งมาเพื่อให้ตนได้เสพสมใจเท่านั้น

คนที่หลงไปแต่งงานแล้ว ความเจริญสูงสุดที่จะมีได้ก็คือการเว้นขาดจากการสมสู่ สุดท้ายก็จะกลายเป็นการคบหาแบบเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งการมีความสัมพันธ์ที่ดีนี้ ไม่จำเป็นต้องสร้างวิบากบาป สะสมกิเลสรายทาง ให้ต้องมารับกรรมชั่วกันทีหลัง เพียงแค่คงสถานะมิตรที่มีไว้ตั้งแต่แรกให้ยั่งยืน สุดท้ายก็จะมาบรรจบที่เดียวกันกับคู่รักที่เจริญแล้วทุกคู่

แต่คนที่คงความเป็นโสดและเป็นมิตรที่ดีจะเจริญได้มากกว่ามากนัก เพราะไม่ต้องมารับวิบากบาปจากความชั่วที่ทำมาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการบำเรอกิเลสของกันและกัน การสมสู่กันและกัน การระบายโทสะแก่กันและกัน จนกระทั่งการพากันไปหลงในกิเลสต่างๆด้วยกัน พวกเขาก็ไม่ต้องรับวิบากบาปเหล่านั้นทีหลัง

นั่นหมายถึงเราสามารถพาคนที่เรารักเจริญได้มากกว่าการที่ไปคบหากันเป็นแฟนหรือแต่งงานกัน เพราะไม่ต้องมีวิบากบาปใดมากั้นขวางไม่ให้ไปสู่ความเจริญ นี้เองคือความรักที่มากกว่า เกื้อกูลมากกว่า มีปัญญามากกว่า เห็นแก่ตัวน้อยกว่า เสื่อมน้อยกว่า และทุกข์น้อยกว่าคนที่หลงไปคบหากันเป็นแฟนหรือแต่งงานกันมากนัก

– – – – – – – – – – – – – – –

2.5.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

การมีความรัก เพื่อขัดเกลากิเลส

May 2, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,060 views 0

การมีความรัก เพื่อขัดเกลากิเลส

การมีความรัก

เพื่อขัดเกลากิเลส

ก็ตกอยู่ภายใต้กิเลส

…ตั้งแต่แรกแล้ว

= = = = = = = = = = =

การที่คนเราจะไปหลงสุขในการมีคู่ครองนั้นคงจะไม่แปลกอะไรสำหรับคนทั่วไป

แต่คนที่หันหน้ามาหาธรรม เข้ามาปฏิบัติธรรมแล้ว ยังมีทิศทางที่ไปสู่การมีคู่

โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ ให้การมีคู่มีน้ำหนัก มีคุณค่า มีเหตุมีผล น่าได้ น่ามี น่าเป็น

เป็นพลังของกิเลสที่พาให้หลงไป ให้หลงคิดว่าวิธีเรียนธรรมของตนนั้นดีเยี่ยม

เพราะได้ทั้งเสพสุขและปฏิบัติธรรมไปในตัว เป็นความโง่สุดโง่ที่หลงไปในกิเลส

โดนกิเลสจูงให้ไปเสพโดยที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นผู้มีปัญญา สมดุลโลกและธรรม

กิเลสมันร้ายแบบนี้ มันชั่วแบบนี้ มันทำให้เราเป็นคนไร้เดียงสาที่คิดว่าตนฉลาดที่สุด

….ทั้งที่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงการล่อลวงของกิเลส อยู่ภายใต้การควบคุมของกิเลส

ทำให้จมอยู่ในความหลงผิด เชื่อในทางที่ผิด และเห็นทางที่ผิดเหล่านั้นเป็นทางที่ถูก

แล้วมันจะขัดเกลากิเลสได้อย่างไร ในเมื่อตนนั้นหลงอยู่ในกิเลส ขัดยังไงก็อยู่ในกิเลส

เหมือนคนที่คิดจะไปอาบน้ำขัดตัวโดยหวังความสะอาด แต่กลับลงไปขัดตัวในบ่อเก็บขี้

ขัดไปมันก็มีแต่เปื้อนขี้ปนเชื้อโรค แล้วมันจะสะอาดไหม? มันจะสุขไหม? มันจะดีไหม?

ท่านผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ก็ลองพิจารณากันดู ว่ามันจะคุ้มไหม?

มันจะได้มากกว่าเสียจริงไหม? ถ้าท่านเห็นว่าเป็นทางที่ไม่ควรก็พึงละเสีย พรากจากทางนั้นเสีย

อย่าได้เข้าใกล้ อย่าไปคลุกคลี อย่าปล่อยใจให้เผลอไปตามกลลวงของกิเลสที่คอยยั่วเย้า

แล้วเพียรพิจารณาให้เห็นโทษภัยตามความเป็นจริง ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้กันเถิด

– – – – – – – – – – – – – – –

2.5.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

เมื่อรักนั้นคือความหลง ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

April 16, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 5,718 views 0

เมื่อรักนั้นคือความหลง ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

เมื่อรักนั้นคือความหลง

ก็เหมือนคนติดยาเสพติด

มีให้เสพก็มีความสุข

พอไม่ได้เสพก็ทุกข์ทรมาน

 

= = = = = = = = = = =

โดยทั่วไปแล้ว…

คงยากที่ใครจะยอมรับว่า..ตนเองนั้นหลง

แต่ความจริงก็จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริง

คู่รักที่ยังดูแลเอาใจใส่แก่กันและกัน

ก็จะดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังมีความสุขดี

แต่พอคนใดคนหนึ่งลดการเอาใจใส่ ด้วยเหตุใดก็ตาม

อีกคนก็จะเกิดอาการทุกข์ในจิตใจขึ้นมาทันที

 

….

 

นี่คือความเสพติดความรักเพราะความหลง

พอได้เสพมันก็หลงว่าเป็นสุข

แล้วยึดสุขนั้นไว้ว่าต้องได้เสพตลอด

ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากความสุข

ใครที่นำความสุขนั้นออกไปจากชีวิตฉัน

ก็จะถือว่าเป็นศัตรูกับฉัน…

 

…โดยไม่สำคัญว่าคนนั้นจะเป็นใคร

เคยเป็นคนที่ฉันรักที่สุดหรือไม่

เคยเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่ฉัน

เคยเป็นคนที่ช่วยเหลือฉันเมื่อทุกข์ใจ

แต่ถ้าวันนี้เธอพรากความสุขของฉันไป

เราจะกลายเป็นศัตรูกัน!!

….และนี่เองคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คู่รักทะเลาะกัน

 

แท้จริงแล้วความหลงก็คือความเห็นแก่ตัวดีๆนี่เอง

มันมาในภาพที่สวยหรูที่เรียกว่าความรัก

สุดท้ายแล้วก็หวังจะให้คนอื่นมาบำเรอตนเท่านั้นเอง

 

– – – – – – – – – – – – – – –

16.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

April 16, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,572 views 0

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

ทุกข์ของคนอยากมีความรัก

ก็คือ “ความอยาก” มีความรัก

= = = = = = = = = = =

ความอยากมีความรักนั้นเหมือนคำสาป

ทำให้คนตาดีกลายเป็นคนตาบอด

ใครที่เผลอตัวเข้าไป ก็มักจะหลงทาง

ทั้งที่ทางออกนั้นก็คือทางเข้า แต่กลับมองไม่เห็น

พากันแก้ปัญหาความรักด้วยการแสวงหามาเติมให้เต็ม

ยิ่งแก้ก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งแก้ก็ยิ่งหลง ยิ่งแก้ก็ยิ่งไกล

หาคนนั้น หาคนโน้น ชอบแบบนั้น ชอบแบบนี้

ปรึกษาคนนั้น ปรึกษาคนนี้ ตามหาศิราณีไปทั่ว

พบรัก สมหวัง คบหา เลิกรา เป็นอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น

โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว…

วิธีแก้ปัญหาความรักมันก็ไม่ได้หายากอะไรมากมาย

มันก็แก้กันที่ “ความอยากได้อยากมี” เท่านั้นเอง

การแก้ปัญหาความอยากได้รับความรัก

ไม่ได้ง่ายเพียงแค่กดข่มใจให้ “ไม่อยาก

แต่เป็นการค้นให้ลึกลงไปถึงรากของปัญหา

คือเรา “อยาก” ได้รับอะไรจากความรัก

เราอยากได้ อยากมี อยากเสพอะไร

เราต้องการสิ่งใดหนอ ที่ทำให้เราต้องลำบาก

ที่ทำให้เราต้องทนทุกข์กับการแสวงหาความรัก

– – – – – – – – – – – – – – –

16.4.2558

ดิณห์ ไอราวัณวัฒน์ (Dinh Airawanwat)